Destiny of love ตอนที่
7
Destiny of love
ตอนที่ 7 “วิว...เธอจะเลือกใคร!?”
ตอนที่ 7 “วิว...เธอจะเลือกใคร!?”
เสียงลมที่พัดผ่านใบหูรวมถึงหน้าตาจากรถคู่ใจที่ขับผ่านเส้นสายถนนมุ่งหน้าตรงกลับบ้านด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น...ผมเหม่อมองไปยังสายลำธารเล็กๆที่ไหลผ่านข้างถนนด้วยความคิดที่ว่าอยากให้เวลาผ่านพ้นไปช้าๆ...ถ้าคิดย้อนกลับไปสำหรับเหตุการณ์เมื่อเช้าถึงจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากความเข้าใจผิดแต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง...เป็นเรื่องราวที่ผมทำให้หญิงสาวที่มอบความรักอันแสนบริสุทธิ์ให้กับผมด้วยใจที่แท้จริงต้องร้องให้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น...แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็ทอดทิ้งหญิงสาวอีกคนไม่ได้เช่นกันถึงจะเป็นความเข้าใจผิดของผมแต่ผมก็จะไม่ทอดทิ้งเธอทั้งสองคน
ผมขับรถคู่ใจมุ่งตรงมาถึงบ้านจากนั้นจัดแจงเก็บรถจอดระหว่างกลางรถเก๋งสีขาวและสีดำซึ่งเป็นรถเก๋งของพี่สาวต่างบิดาและมารดาทั้งสองก่อนจะจัดแจงสำรวจเนื้อสำรวจตัวแล้วจึงเหลือบมองเวลาในโทรศัพท์
9.00 น.
9.00 น.
วันนี้นับว่าเป็นวันที่มีอากาศดีมากๆผิดที่หัวใจผมที่ตอนนี้กำลังพบพานกับความเศร้าเสียใจจนเริ่มรู้สึกว่าร่างกายค่อยๆอ่อนแรงลงและเริ่มปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนั้นผมจึงเดินไปที่ประตูบ้านแต่ไม่ทันจะถึงก็มีหญิงสาวเปิดประตูออกมา
หญิงสาวเหมือนจะรู้ว่าผมกลับมาเธอเปิดประตูต้อนรับผมพร้อมด้วยรอยยิ้มที่มีให้...เป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนและมีความอบอุ่นไม่ต่างจากแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นของวันที่แสนสดใส..ไม่ผิดเลยถ้าเธอคนนี้จะเป็นหญิงสาวที่มีทั้งความอบอุ่นและอ่อนโยนเพราะเธอก็เป็นพี่สาวแสนสวยของผมถึงจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันก็ตามแต่ความอ่อนโยนที่เธอมีให้ผมก็เป็นความอ่อนโยนและความอบอุ่นที่แท้จริง
ผมเดินเข้าไปหาพี่มิ้นก่อนที่จะทักทายตามประสา...วันนี้พี่มิ้นใส่เสื้อแขนยาวกับกระโปรงจีบบานเหมือนเธอจะเตรียมตัวออกไปที่ไหนแต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยถามเนื่องจากตอนนี้รู้สึกมึนหัวแล้วก็อยากจะนอนพักผ่อนเต็มทน...จากนั้นเราทั้งคู่ก็เดินเข้ามาในบ้านแต่พอเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวพี่มิ้นก็เดินมาดักหน้าผมก่อนจะทำสีหน้าสงสัยแล้วก็เอ่ยพูดกับผม
“วิว...เป็นอะไรไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะ...ทำไมดูหน้าตาซึมๆ”
น้ำเสียงหวานใสของพี่มิ้นเอ่ยขึ้นถามถึงอาการของผมเพราะเธอสังเกตเห็นถึงสีหน้าที่ดูซึมๆของผม...แบบนี้ก็แสดงว่าพี่มิ้นต้องใส่ใจผมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย...ผมจึงตอบพี่มิ้นถึงความรู้สึกตอนนี้ออกไปโดยไม่ได้ปิดบัง
“ผมปวดหัวนิดหน่อยน่ะครับพี่มิ้น”
พี่มิ้นพอได้ยินผมพูดออกไปแบบนั้นเธอก็มีสีหน้าที่ดูจะเป็นห่วงผมพร้อมจ้องหน้าผมไม่กระพริบก่อนที่จะขยับตัวเข้ามาไกล้ผมมากขึ้นพร้อมยื่นส่งลำแขนออกมาข้างหน้ายกขึ้นสูงแล้วใช้หลังมือแตะที่หน้าผากผมเบาๆจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น
“แย่แล้ว..ไหนพี่ขอวัดไข้หน่อย...อืม...ตัวร้อนหน่อยๆ...แบบนี้ต้องกินข้าวกินยานอนนะ”
“เอ่อ...ขอบคุณครับ”
ผมรู้สึกดีใจที่พี่มิ้นดูเหมือนจะสนใจในตัวผมแต่ก็เก็บความดีใจเล็กๆนี้ไว้ในหัวใจและคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ในใจ
(พี่มิ้นเข้ามาใกล้เราเกินไปแล้วยืนห่างกันไม่ถึง30เซนติเมตร แถมยกหลังมือข้างขวามาแตะหน้าผากเราอีกตั้งหาก)
ตอนนี้พี่มิ้นเหมือนจะรู้ตัวว่าเข้ามาใกล้กับผมเกินไปเธอจึงขยับตัวออกไปที่เดิมก่อนจะหันหน้าไปอีกทางผมก็เลยบอกกับพี่มิ้นไปว่า
“งั้นผมขอขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
พี่มิ้นไม่ได้หันหน้ามาหาผมแต่ก็ตอบผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานก่อนที่พี่มิ้นจะตรงไปที่ห้องครัว
“จ๊ะ...แล้วลงมากินข้าวด้วยนะ”
“ครับ”
“...”
(อ่า...เดินมาถึงบันไดแล้วเกือบลืม)
ตัวผมเองก็เดินไปที่บันไดกะจะขึ้นชั้นสองกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง...แต่ก็ยังไปไม่ถึงเพราะนึกได้ว่าปกติเวลานี้ยัยมายหน้าจะอยู่ที่หน้าโทรทัศน์เพราะนี่ก็สายแล้ว...หรือว่าจะยังไม่ตื่น...พอสงสัยแบบนั้นผมเลยเอ่ยถามพี่มิ้นที่เพิ่งจะเดินไปถึงประตูห้องครัว
“คือว่าพี่มิ้นครับ...มายยังไม่ตื่นหรอครับ”
พี่มิ้นพอได้ยินผมถามก็หันกลับมานิดนึงก่อนจะตอบกับผม
“มายออกไปตั้งแต่เช้าแล้วจ๊ะ...ไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะน่าจะกลับบ่ายๆ”
จะว่าไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่พี่มิ้นไม่ยอมมองหน้าผมตรงๆแต่เมื่อกี้เห็นเหมือนพี่มิ้นจะแก้มแดงขึ้นนิดๆหรือเปล่าตัวผมก็ไม่ค่อยแน่ใจแต่พอได้รู้เรื่องมายแล้วผมก็ไม่รู้จะถามอะไรต่อเลยเดินขึ้นห้องทันที
(ยัยนี่เที่ยวเก่งจริงแฮะ...แต่เราจะถามหายัยบ้านั่นทำไมล่ะเนี่ย...ชั่งเถอะไปอาบน้ำดีกว่า)
(ยัยนี่เที่ยวเก่งจริงแฮะ...แต่เราจะถามหายัยบ้านั่นทำไมล่ะเนี่ย...ชั่งเถอะไปอาบน้ำดีกว่า)
“.....................................................”
“.....................................................”
“ปวดหัวเป็นบ้าเลยแฮะ...แอ๊ะ???...เมื่อวานรีบไปมหาวิทยาลัยจนไม่ทันได้เก็บกวาดห้องเลยนี่นา...ใครเข้ามาทำให้ล่ะเนี่ย...พี่มิ้นหรือยัยมาย....555+บ้าสิจะเป็นมายไปได้ไงเล่าต้องเป็นพี่มิ้นอยู่แล้ว...สงสัยลงไปต้องขอบคุณหน่อยแล้ว...เก็บกวาดห้องเราซะสะอาดเลย”
พอผมเดินขึ้นมาถึงห้องก็มองออกไปทางหน้าต่างที่ตอนนี้ผ้าม่านที่ติดอยู่ที่หน้าต่างที่กำลังปลิวไสวเมื่อต้องลมอ่อนๆที่พัดโชยเข้ามาจากภายนอก...ตอนนี้สภาพห้องผมดูแตกต่างไปจากเมื่อวานจนเห็นได้ชัดเพราะมันดูสะอาดขึ้นมากแต่จะเป็นใครกันที่เข้ามาทำความสะอาดห้องผมให้...มายหรือพี่มิ้น...แต่ไม่ว่าจะเป็นใครตัวผมก็ต้องขอขอบคุณด้วยใจจริง
คิดไปคิดมาก็ต้องขอพักเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะพอได้มาเห็นที่นอนแบบนี้แล้วมันรู้สึกอยากเอนกายพักผ่อนบ้างเหลือเกินคิดได้แบบนั้นผมจึงค่อยๆเดินไปที่เตียงของตัวเองแล้วเอนกายลงไปนอนแผล่ตามองตรงไปที่เพดานพร้อมคิดถึงเรื่องราวต่างๆไปทั่ว
“อ่าาาา...เตียงเรานี่มันนอนสบายจริงๆเลยนะ...พอเอนตัวลงได้แบบนี้มันง่วงขึ้นมาทันทีเชียว...เมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอนด้วย...ไอ้ซิกจะเป็นยังไงบ้าง...ก็เพิ่งกลับมาจากหอมันเองนี่หว่า555+ป่านนี้ก็คงเล่นจ้ำจี้กับน้องส้มอีกรอบอยู่ล่ะสิ...ไอ้เพื่อนเอ้ยมึงจะหมดเงินให้หมอนวดมากไปแล้วมั้ง...แต่ถ้าทั้งมันและน้องส้มยอมคบกันแบบคู่รักจริงๆไม่ใช่แค่ลูกค้าก็คงจะดีนะ...ถ้ามึงยอมรับซึ่งกันและกันไม่มีอดีตมาเกี่ยวข้องกูจะสนับสนุนมึงเต็มที่เลย...ก็ทั้งคู่ก็ดูเหมาะสมกันดีนี่”
ความใกล้ชิดของสองดวงใจที่ค่อยๆหลอมรวมกันช้าๆจนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว...ความรู้สึก...ความเข้าใจ...ไม่ว่าสิ่งไหนถ้ามาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายในคนสองคนแล้วสักวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดเป็นความเข้าใจซึ่งกันและกันและสุดท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าความรักในที่สุด
................................................................
“ฮ่าๆๆ..เรื่องไอ้ซิกคงจะลงเอยด้วยดีแหละนะ”
................................................................
“เบลกับกิ๊กตอนนี้จะทำอะไรกันอยู่นะ...จะตื่นกันหรือยัง...จะทำอะไรกันอยู่นะทั้งคู่...ถึงเบลกับกิ๊กบอกอยู่สระแก้วเหมือนกันแต่บ้านใครจะไกลกว่ากันนะ...อยากรู้จัง”
..................................................................
“หึๆๆ...เป็นห่วงเรื่องของคนอื่นทั้งที่เราเองยังเอาตัวไม่รอดเนี่ยนะ...คนที่รักเรางั้นเหรอ...กิ๊ก...เบล...กัน...จะทำยังไงให้ทั้งหมดมีความสุขได้ล่ะ...จะเป็นไปได้ไงล่ะในเมื่อเมื่อเช้าเราก็เพิ่งจะทำร้ายจิตใจหนึ่งในนั้นมาเองนิ...เฮ้ออ...หืม..น้ำตางั้นรึของเราเนี่ยนะ...บ้าสิ้นดี!!”
..................................................................
“บ่นอะไรอยู่คนเดียววะเนี่ย...แล้วเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำไม...จะโทรหาใครดีล่ะ...มาย...เบล...กิ๊ก...โธ่งั้นโทรหาทุกคนเลยแล้วกัน”
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพราะตอนนี้อยากได้ยินเสียงของพวกเธอเหล่านั้นแต่ก็ยังลังเลที่จะโทรหาใครดีเลยตัดสินใจจะโทรหาทุกคนแต่ก็กลัวจะใช้เวลานานเพราะพี่มิ้นบอกจะเตรียมข้าวกับยาไว้ให้เลยสุ่มโทรเอา
“............................................................”
“สวัสดีค๊ะที่รัก...คิดถึงกิ๊กใช่ไหมเลยโทรมา”
ผลการสุ่มของผมออกมาด้วยหญิงสาวคนแรกที่ผมเคยมีความสัมพันธ์ถึงขั้นสอดใส่เป็นคนแรก
“ก็...อยากคุยด้วยน่ะครับ...กิ๊กตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอครับ”
“ตอนนี้กิ๊กกำลังจะออกไปน้ำตกค๊า...แต่ที่รักยังไม่ได้บอกเลยน๊าว่าที่โทรมานี่คิดถึงกิ๊กใช่ไหม”
(วันนี้ฟังจากน้ำเสียงแล้วดูท่ากิ๊กจะร่าเริงดีแฮะ)
“เอ่อ...ครับ...ก็เห็นเดินทางไกลด้วยเลยเป็นห่วงหน่อยๆ”
“ดีใจที่สุดเลยค๊ะที่วิวเป็นห่วง...เอ๋...หรือว่าที่โทรมาเพราะคิดถึงเรื่องนั้นค๊ะ”
“เรื่องนั้น?”
“ก็เรื่องที่มหาลัยไงค๊ะ...คิคิคิ...ที่รักติดหนี้กิ๊กสองรอบแล้วนะค๊ะ...วันนั้นกิ๊กยังไม่เสร็จเลย”
“แฮะๆๆ”
(หัวเราะกลบเกลื่อนไปล่ะกัน...ไปไม่ถูก)
“เรื่องนั้นกิ๊กจะทวงคืนที่หลังแน่ค๊ะ...อ่า..กิ๊กมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟังด้วยค๊ะ”
“เรื่องอะไรหรอครับ”
“คือว่าอย่างนี้ค๊ะ...ระหว่างทางกลับบ้าน...
( 20 มิถุนายน 2556
13.00 น.
13.00 น.
ในวันนั้นขณะที่ผมเพิ่งกลับมาจากการกินเมื่อเที่ยงกับหญิงสาวสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกันเธอคือกิ๊กและเบลและกำลังนั่งเล่นฆ่าเวลาอยู่ที่โต๊ะในห้องเรียนอยู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ตื๊ดดดดด----....ตื๊ดดด---”
(เพิ่งแยกกันเมื่อกี้เองนี่...โทรมามีอะไรนะ)
“ฮัลโหล...มีอะไรหรอครับกิ๊ก”
“วิวถึงห้องเรียนยังค๊ะ”
“ถึงแล้วครับ”
“แล้วเบลอยู่ด้วยไหมคะ”
“ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกครับพอมาถึงเบลก็แยกไปหาเพื่อนเลย”
“งั้นดีเลยค๊ะ...วิวออกมาหากิ๊กหน่อยนะ...เราไปหาอะไรกินกันสองคนเถอะ”
“?...เมื่อกี้เราก็เพิ่งกินข้าวด้วยกันมาเองนะ?”
“กินด้วยกันสามคนค๊ะมีเบลด้วย...กิ๊กอยากอยู่กับวิวสองต่อสองบ้างน่ะค๊ะ...แล้วก็ที่บอกไปหาอะไรกินกิ๊กไม่ได้หมายถึงอาหารสักหน่อย”
“?...หมายถึงอะไรหรอครับ”
“ไม่รู้สิค๊ะ...คิคิคิ...แต่ถ้าวิวมาหากิ๊กตอนนี้กิ๊กมีอะไรให้กินจนอิ่มแน่ค๊ะ...กิ๊กรออยู่ข้างตึกกิ๊กนะค๊ะ...มาเร็วๆนะจ๊ะที่รัก”
(เห...วางไปซะละ...มีอะไรให้กินนะ...ไปสักหน่อยก็ได้มั้ง...ยังพอมีเวลา)
..................................................................
ผมเดินลัดเลาะมาตรงบริเวณข้างตึกจนเดินมาได้ไม่นานก็เจอหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนเอนหลังพิงตึกส่วนมือก็กอดอกแล้วก้มหน้ามองพื้นอยู่...แต่จะว่าไปเธอก้มหน้าจนเส้นผมยาวลงมาปิดหน้าซีกหนึ่งส่วนอีกซีกหนึ่งเธอปัดมันแนบหูไว้ดูน่ารักที่เป็นแบบนี้เพราะเธอเพิ่งไปตัดผมที่ทรงผมดูเข้ากับเธอมากมาใหม่จึงทำให้เธอดูน่ารักขึ้นเป็นกอง
(อ่า...เจอแล้ว)
พอเธอรู้ว่าผมมาถึงแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองมาทางผมแล้วยิ้มให้พร้อมพูดขึ้น
“เดินมาหรอค๊ะที่รัก”
ผมเองก็ยิ้มให้เธอนิดๆก่อนจะตอบกลับไป
“ครับ...กิ๊กมีอะไร---เหๆๆ..จะดึงผมไป--”
ผมยังพูดไม่ทันขาดคำกิ๊กก็โผเข้ามากอดผมจากด้านหน้าทำให้เต้านมขนาด35ของกิ๊กแนบแน่นเข้าหาหน้าอกผม...กิ๊กกอดผมแน่นอยู่ประมาณ30วินาทีก่อนจะแยกออกแล้วเปลี่ยนมาเป็นคล้องแขนผมแทนจากนั้นกิ๊กก็ดึงผมให้ตามเธอไป
“ตามมาเถอะค๊ะ...มีเวลาไม่มากแล้ว”
“............................................................”
“.............................................................”
“ขึ้นมาทำอะไรชั้นนี้หรอครับ”
กิ๊กเลือกพาผมเดินขึ้นมาทางบันไดด้านหลังของตึกแพทย์(ความจริงก็กลัวเจอมายเหมือนกันแฮะ)แล้วเราสองคนก็เดินขึ้นมาจนถึงชั้นสี่
“....”
“....”
“?”
“ถึงแล้วค๊ะห้องนี้แหละ”
กิ๊กพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่หวานใสก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม
(ชั้นสี่ตึกแพทย์...เหมือนจะเป็นห้องพยาบาลนะแต่ไม่เห็นมีคนอยู่เลย)
“กิ๊กมาหา---...อู้..อุ...”
พูดยังไม่ทันขาดคำกิ๊กก็จู่โจมจูบมาที่ผมแบบไม่ทันตั้งตัวผมเองก็เผลอตัวเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของกิ๊กเช่นกันแต่ก็ต้องเรียกสติอารมณ์กลับมาเพราะกลัวจะมีคนขึ้นมาเห็นเดี๋ยวจะเป็นเรื่องเป็นราว
“ดะ..เดี๋ยวก่อนครับ”
ผมดันตัวกิ๊กออกไปนิดนึงแต่กิ๊กก็ใช้มือสองข้างมาคล้องคอผมแน่น
แล้วกิ๊กก็มองตาเยิ้มหวานๆมาจ้องตาผมก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องกลัวจะมีคนขึ้นมาหรอกค๊ะ...นี่เป็นห้องพยาบาลเก่าไม่มีคนใช้แล้ว...กิ๊กไม่ไหวแล้วค๊ะวิว...เร็วๆกันเถอะกิ๊กก็กลัวคนขึ้นมาเหมือนกัน”
“เอ่อ...คือ”
ตอนแรกผมคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นะครับกับสถานที่แบบนี้...แต่เวลานี้กิ๊กช่างดูน่ารักเหลือเกินแล้วไอ้การที่จะปฏิเสธสุภาพสตรีก็ไม่ใช่นิสัยของผมซะด้วย
(อะ..เอาก็เอา)
“อึ้ย...แหมที่รักอ่ะ...ตอนแรกก็คิดว่าจะ...อาาา...บีบนมกิ๊กแรงกว่านี้ก็ได้ค๊ะ”
จากตอนแรกที่มือทั้งสองข้างของผมอยู่ที่ไหล่กิ๊กผมก็ค่อยๆเลื่อนมือลงมาพร้อมๆกันจนมือผมลูบมาถึงเนินอกเช้าๆแล้วจึงค่อยๆลูบมาวางบนเต้านมอันอวบอั้นของกิ๊กจากนอกเสื้อนักศึกษารัดรูป...ความรู้สึกตอนนี้ที่ได้สัมผัสมันนุ่มนวนเหลือเกินจนต้องพูดกับกิ๊กไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นนิดๆ
“นุ่มจังเลยครับ”
กิ๊กยังคงมองตาหวานเยิ้มมาที่ผมก่อนจะยิ้มออกมานิดๆแล้วพูดว่า
“อย่าทำเสื้อกิ๊กยับมากนะค๊ะ...เดี๋ยวคนอื่นสงสัย”
ผมก็ยิ้มให้กิ๊กแล้วพูดกลับไปพร้อมบีบหน้าอกกิ๊กแรงขึ้น
ผมก็ยิ้มให้กิ๊กแล้วพูดกลับไปพร้อมบีบหน้าอกกิ๊กแรงขึ้น
“แบบนี้ต้องรีบถอดแล้วสิครับ”
“กิ๊กตามใจวิวทุกอย่างค๊ะ”
กิ๊กพูดในขณะที่กำลังหลับตาพริ้มตามแรงบีบเค้นของผม...ตอนนี้ผมเองก็เริ่มอยากจะเห็นอะไรดีๆขึ้นมามากแล้วเลยบอกกับกิ๊กไปว่า
“งั้นไปที่เตียงกันเถอะครับ..อึบ”
พูดจบผมก็ซ้อนมืออุ้มตัวกิ๊กขึ้นส่วนกิ๊กก็ยังคงใช้แขนคล้องคอผมไม่ปล่อย
“วิวอุ้มกิ๊กแบบนี้กิ๊กรู้สึกเหมือนได้เป็นเจ้าสาวเลยนะค๊ะ”
“...”
ผมยิ้มให้กิ๊กหน่อยนึงก่อนจะอุ้มพาเธอไปที่เตียงพยาบาล...จะว่าไปแล้วถึงนี่จะเป็นห้องพยาบาลเก่าแบบที่กิ๊กบอกแต่ก็ดูสะอาดสะอ้านเหมือนว่าจะมีคนขึ้นมาทำความสะอาดทุกวัน
พอถึงเตียงกิ๊กก็นอนราบยาวบนเตียงส่วนผมก็ทาบทับตัวเธอแต่ยังคงดันแขนขึ้นสูงเพื่อดูเรือนร่างที่สวยงามของเธอ...จะว่าไปแล้วบรรยากาศตอนนี้มันยิ่งทำให้ผมอยากจะทำอะไรกับกิ๊กขึ้นไปอีกไม่ว่าจะเป็นแสงแดดอ่อนๆที่สาดเข้ามาภายในห้องหรือแม้แต่สายลมที่พัดผ่านเอื่อยๆจนทำให้ผ้าม่านปลิวไสวเบาๆ
ผมมองไปที่ใบหน้าที่งดงามของกิ๊กแล้วก็สบตาเธออีกทีกิ๊กเองก็มองตาผมก่อนที่จะหลับตาลงช้าๆและเผยอริมฝีปากขึ้นนิดหน่อยผมเองก็ก้มไปบรรจงประกบปากแรกริมฝีปากกับกิ๊ก...)
“แบบนี้กิ๊กก็สนุกน่าดูเลยสิครับได้คุยกับเบลจนถึงบ้านเลย”
“ค๊ะ...แต่กิ๊กก็แปลกใจเหมือนกันนะ...ทั้งที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันแค่คนละซอยแค่นั้นเองแต่กลับไม่เคยเจอกันเลย....แอ๊ะ...เบลมาแล้วค๊ะวิว”
“ครับ...งั้นแค่นี้นะครับ..เที่ยวให้สนุกนะครับ”
“จ่ะ...บายนะค๊ะ........ที่....รัก”
“.....”
(อึก....ประโยคเมื่อกี้...พูดด้วยน้ำเสียงที่น่ารักเกินไปแล้ว...คิดไปคิดมาถ้าคิดย้อนกลับไปวันนั้นก็หน้าเสียดายเหมือนกันแฮะ...แต่ก็ช่างเถอะโอกาสยังมีอีกเยอะ)
(...ผมประกบปากกับกิ๊กอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆจากนั้นผมก็สอดลิ้นผ่านเข้าไปพัวพันกับลิ้นของกิ๊กส่วนมือก็เริ่มปาดป่ายผ่านเอวกิ๊กขึ้นมาที่หน้าอกของเธอจนกิ๊กเริ่มครางขึ้นในลำคอ
จากนั้นผมก็ค่อยๆปลดกระดุมของกิ๊กออกทีละเม็ดจนมันหลุดไปสามเม็ดทำให้เสื้อในสีชมพูอ่อนของกิ๊กเผยออกมา
ตัวผมตอนนี้อยากเห็นเนินอกของกิ๊กชัดๆเลยละปากออกจากกิ๊กแล้วดันตัวขึ้นมามองหน้าอกของกิ๊กจากนั้นก็ค่อยๆใช้นิ้วเขี่ยขอบเสื้อในจากด้านบนลงมาเบาๆจนทำให้เริ่มเห็นหัวนมสีชมพูของกิ๊กมากขึ้นทีละน้อย...แต่ผมก็ยังไม่เขี่ยเสื้อในลงมาหมดจนกิ๊กทักด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือขึ้น
“ระ...รีบๆเถอะจ่ะที่รัก”
ผมดูแล้วว่าตอนนี้กิ๊กคงจะตื่นเต้นเหมือนกันเลยอยากให้ผมรีบๆทำผมเลยเขี่ยเสื้อในลงมาหมดจนมันกองอยู่ที่หน้าท้องเธอทำให้เต้านมขนาดสามสิบห้าที่มีหัวนมเม็ดเล็กสีชมพูประดับอยู่แถมกำลังตั้งชูชันออกมาอวดสายตาผม...เห็นแบบนี้ผมจึงใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ข้างขวาบีบไปที่หัวนมข้างขวาของกิ๊กเบาๆจนกิ๊กครางออกมาดังขึ้น
“หัวนม...กิ๊ก..หน้ากินจังเลยครับ”
“จะทำอะไรก็...ทะสิ..ค๊า...อ๊าา”
“.....”
จากนั้นผมก็ก้มหน้าไปที่เต้านมข้างซ้ายของกิ๊กแล้วจึงแลบลิ้นออกมาแตะสัมผัสกับหัวนมของกิ๊ก
“ตื๊ดดดดดดดด....ตื๊ดดดดดดดดด”
“?”
(ใครโทรมาเวลานี้ฟ๊ะ!!)
“คะ..ใครโทรมาเหรอค๊ะวิว”
“เบลน่ะครับ”
“รับเถอะค๊ะ”
“...สวัสดีครับ”
“วิวจ๊ะ...ตอนนี้อยู่ที่ไหนหรอคะอาจารย์เค้าเรียกรวมแล้วนะเบลไม่เห็นวิวเลยโทรหาน่ะค่ะ”
“ผมอยู่ข้างนอกน่ะครับ...เดี๋ยวผมไปนะครับ...ขอบคุณที่โทรมาตามนะครับ”
“ไม่เป็นไรจ่ะ...งั้นแค่นี้นะค่ะ”
“ครับ”
“...”
“ว่าไงเหรอค๊ะ”
“อาจารย์เค้าเรียกรวมแล้วน่ะครับ”
“...งั้นก็ช่วยไปได้นะค๊ะ”
“แต่---”
“เรื่องเรียนสำคัญกว่าค๊ะ...ไว้โอกาสหน้ามาทำกันอีกก็ไม่สายนะค๊ะ”
“แบบนั้นก็ได้ครับ”
ผมกับกิ๊กจูบกันอีกรอบก่อนจะจัดแจงตรวจความเรียบร้อยของตัวเองก่อนจะออกจากห้องพยาบาล...สรุปคือวันนี้ผมก็ไม่ได้ชดเชยอะไรให้เธอ...)
...............................................................................................................
หลังจากคุยโทรศัพท์กับกิ๊กเสร็จก็เสียเวลาไปพอสมควรผมเลยเข้าไปอาบน้ำเผื่อว่าอาการปวดหัวตอนนี้จะเบาลงบ้าง
หลังจากอาบเสร็จผมก็ลงมาข้างล่างก็เจอพี่มิ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารซึ่งข้างหน้าพี่มิ้นมีข้าวต้มและห่อยาถุงหนึ่ง
พี่มิ้นพอเห็นผมเดินลงบันไดมาก็ยิ้มให้นิดนึงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
พี่มิ้นพอเห็นผมเดินลงบันไดมาก็ยิ้มให้นิดนึงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
“อาบน้ำเสร็จแล้วหรอจ๊ะวิว...ยังปวดหัวอยู่ไหม”
ผมก็ยิ้มกลับให้นิดนึงเหมือนกันแล้วตอบพี่มิ้นกลับไป
“ก็นิดหน่อยน่ะครับ”
จากนั้นผมก็เดินเข้าไปหาพี่มิ้นที่โต๊ะอาหาร
“แต่สีหน้ายังไม่ค่อยดีเลยนะ...นั่งก่อนสิจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ”
พี่มิ้นขยับไปนั่งโต๊ะอีกตัวหนึ่งข้างๆแล้วบอกให้ผมนั่งโต๊ะที่เธอนั่งตอนแรก
(คงจะคิดว่าเราไม่สบายแหงๆเลย...ปวดหัวแค่นี้สบายมากครับพี่มิ้น)
พอผมนั่งลงเสร็จก็เหมือนจะมีใครสักคนโทรมาหาพี่มิ้น(แฟนหรือเปล่าหว่า)
“...ฮัลโหล...สวัสดีค่ะ”
พี่มิ้นรับโทรศัพท์พรางหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง...จะว่าไปผมก็เกิดอยากรู้ขึ้นมาแปลกๆว่าเป็นใครที่โทรมาหาพี่มิ้น...หรือว่าจะเป็นคนที่พี่มิ้นนัดเดทด้วยก็เห็นพี่มิ้นแต่งตัวเหมือนจะออกไปที่ไหนนี่หน่า
“....................................”
(ผู้หญิงหรือผู้ชาย?)
“ใช่ค่ะ”
(คุยอะไรกันไม่ได้ยินเลย...ขอโทษนะครับพี่มิ้น...ผมไม่คิดจะแอบฟังเลยนะ...แค่อยากรู้)
“....................................”
“อ่อ...จำได้จ๊ะ...น้องฟ้าใช่ไหม”
(ฮะ!!!!...ฟ้า....บ้าไม่ใช่เธอคนนั้นหรอกน่า)
“จ๊ะๆๆ...งั้นเดี๋ยวเจอกันจ๊ะ”
“...”
”เอ่อ...ใครหรอครับพี่มิ้น?”
(สงสัยแฮะ...ชื่อเหมือนคนที่เราเจอวันนั้นเลย)
“น้องรหัสพี่นะจ๊ะวิว...งั้นเดี๋ยวพี่ออกไปทำธุระก่อนนะ...ไหนตัวยังร้อนหรือเปล่า”
(ยื่นมือมาแตะหน้าผากเราอีกแล้ว)
“หืม...ตัวร้อนขึ้นอีกแล้วปล่อยไว้พี่กลัวจะเป็นหนักขึ้นอีก...พี่พาไปหาหมอก่อนดีไหมจ๊ะ”
“มะ...ไม่เป็นไรหรอกครับ...เดี๋ยวผมกินข้าวเสร็จกินยาแล้วนอนพักซักแปปก็หาย...พี่ไปทำธุระเถอะครับ”
“...งั้นเดี๋ยวพี่จะรีบกลับนะจ๊ะ...พักผ่อนมากๆนะ”
“ครับ”
พูดจบพี่มิ้นก็เดินออกไป....ส่วนผมก็จัดการกับข้าวต้มที่พี่มิ้นทำให้แต่ก็กินไม่หมดเพราะรู้สึกไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ กะว่ากินแค่นี้ก็พอเลยหยิบดูยาในห่อที่พี่มิ้นเตรียมไว้ให้กะจะกินแต่
“อึก!...เยอะไปแล้วววววว”
“อึก!...เยอะไปแล้วววววว”
.................................................................
10.00 น.
หลังจากกินยาเสร็จ(เลือกกินยาพาราแค่2เม็ดเพราะยาที่พี่มิ้นเตรียมไว้ให้เยอะจนไม่รู้ว่าจะต้องกินอันไหน)ผมก็ขึ้นมานอนเล่นที่ห้องต่อแล้วก็กะว่าจะนอนเลยแต่ก็นอนไม่หลับแถมยังมีอาการปวดหัวมากขึ้นอีกด้วย...รู้สึกว่างานนี้เหมือนจะได้ป่วยจริงๆ...ผมเลยคิดว่าจะหาอะไรทำแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเลยกลับมานอนเล่นต่อ
(...ผมรู้สึกเหมือนสติจะเลือนรางไปแปปนึงหลังจากที่เมื่อกี้กำลังนอนเล่นอยู่ที่บนเตียง...แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวผมจะมาอยู่ที่ไหนสักที่หนึ่ง...โดยสภาพแวดล้อมตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกที่ลงจัดไปทั่วบริเวณจนขาวโพนและตอนนี้เบื้องหน้าผมก็กำลังปรากฏภาพหน้าต่างบานใหญ่บานหนึ่งที่อีกฝั่งของหน้าต่างนั้นปรากฏเรือนร่างของใครบางคน..ถ้าตั้งใจมองดีๆแล้วรู้สึกว่าจะเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง
(อ่ะ...ที่นี่ที่ไหน???...หือ...เด็กคนนั้นใครน่ะ...มองไม่ชัดเลยเข้าไปใกล้ก็ไม่ได้...เอ๋...นี่เรารอยอยู่บนอากาศหรือ??)
ตอนนี้เมื่อม่านหมอกรอบๆตัวค่อยๆจางลงผมก็เริ่มที่จะเห็นสภาพแวดล้อมต่างๆมากขึ้นโดยที่สำคัญคือตอนนี้ตัวผมกำลังรอยอยู่เหนือบริเวณสวนหย่อมของบ้านหลังหนึ่งอยู่และหน้าต่างที่ผมเห็นข้างหน้าเป็นหน้าต่างชั้นสองของบ้านหลังนั้น
“พี่ขอเข้าไปนะ”
(....เด็กผู้หญิงที่ดูโตกว่าเด็กชายคนนั้นเดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ข้างเตียงแล้ว)
เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นเดินเข้ามาในห้องพร้อมเอ่ยทักเด็กผู้ชายที่เพิ่งจะตื่นเมื่อกี้...ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงมองหน้าเด็กผู้ชายคนนั้นไม่ชัดแต่กลับมองเห็นใบหน้าและเรือนร่างของเด็กผู้หญิงที่เดินเข้ามาได้ชัดเจน...แต่ก็มีข้อสรุปที่แน่ใจได้อย่างหนึ่งคือ...“ตอนนี้ผมกำลังฝันอยู่”แต่ทำไมถึงฝันเรื่องแบบนี้หรอครับตัวผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน...
“ป่วยอีกแล้วหรอ...เป็นยังไงบ้างไหนให้พี่ดูหน่อยนะ”
ที่ผมเห็นตอนนี้คือเด็กผู้หญิงคนนั้นพอมาถึงก็ขยับเก้าอี้ในห้องนั่นเข้ามานั่งที่ข้างเตียงของเด็กหนุ่มพรางยื่นมือออกมาแตะที่หน้าผากของเด็กชายที่กำลังนอนลืมตาอยู่บนเตียง
“ผมปวดหัวนิดหน่อยน่ะคับ”
เด็กคนนั้นหันไปทางเด็กหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงแล้วพูดไปแบบนั้น...ถ้าจะให้คะเนถึงอายุของเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วน่าจะซัก...แปดถึงเก้าขวบได้...ส่วนเด็กที่อยู่บนเตียงก็น่าจะซัก...หกถึงเจ็ดขวบ
“พี่ชายจร๊า...นู๋ก็มาเยี่ยมด้วยน๊า”
(อ่า..มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอีกคนเดินเขามาในห้องอีกแล้ว)
“ตัวเธอร้อนมากเลยนะ...นอนเถอะไม่ต้องลุกขึ้นมา”
“พวกพี่มานานยังหรอคับ”
“พี่มาได้สักพักแล้ว...ตอนแลกเห็นเธอนอนหลับอยู่พี่เลยไม่อยากกวน”
“อ่อ...ขอบคุณคับ”
“พี่ชายรู้ไหม...พี่สาวหนูพอรู้ว่าพี่ชายไม่สบายก็อ้อนแม่ให้พามาแต่เช้า--”
(เด็กหญิงที่เหมือนจะเป็นน้องสาวตอนนี้ขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆเด็กหนุ่มที่ลุกขึ้นนั่งเมื่อกี้แล้ว...จะว่าไปดูแล้วเด็กๆพวกนี้ก็สนิทสนมกันน่าดูเลยแฮะ)
“นี่น้องเงียบเลยนะ...แล้วขึ้นไปกวนอะไรบนเตียงเค้าน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกคับ...ผมดีขึ้นมากแล้ว”
“คิคิคิ...เห็นไม๋จ๊ะพี่..พี่ชายจะหายแล้ว...เอ๋..หรือว่าพี่ก็อยากขึ้นมานั่งบนนี้บ้าง”
“พี่ไม่ทำแบบน้องหรอกหน่า...”
“...เด็กๆจ๊ะทำอะไรกันอยู่เอ่ย...อาเอาข้าวต้มร้อนๆมาให้คนป่วยจ่ะ”
“คุณอา...สวัสดีคับ”
(หือ?...คุณอาหรอ...ทำไมมองไม่เห็นหน้าเลยแฮะ...หมอกเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆอีกแล้ว)
“เย้ๆแม่จ๊าหนูกินด้วยๆ”
“ข้างล่างมีเยอะเลย...แม่ทำเผื่อให้ทั้งสองด้วย”
“อยากกินถ้วยนี้อ่า--”
“ไม่ได้จ่ะ”
“แง่ววววววว”
“กินเองไหวไหม...แม่ค่ะเดี๋ยวหนู.......
เด็กคนนั้นพูดอะไรต่อตัวผมเองก็ไม่รู้แต่ความรู้สึกและการรับรู้ของผมตอนนี้กำลังจะเลือนลางขึ้นอีกครั้งพร้อมกับแผ่นผืนม่านหมอกที่กำลังปกคลุมหนาตาขึ้นเรื่อยๆจนภาพต่างๆตอนนี้เริ่มจางหายไปทีละนิด...ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเด็กทั้งสามเป็นใครแต่ผมก็รู้สึกคุ้นหน้าเด็กสาวทั้งสองแปลกๆเหมือนจะเคยเห็นพวกเธอมาก่อน....แต่ผมอาจคิดมากไปเองก็ได้...เพราะว่านี่ก็เป็นเพียงความฝัน...)
...................................................................
14.00 น.
(ปวดหัวเป็นบ้าเลยวุ้ย...อะไรเปียกๆบนหัวว่ะ?)
“....”
“ผ้า?”
“ตื่นแล้วเหรอ”
“?”
เม็ดฝนที่โปรยปรายอยู่ที่นอกหน้าต่างที่ตอนนี่กำลังมีสายลมพัดผ่านเอื่อยๆทั้งที่เมื่อตอนที่ผมกลับมาอากาศยังดีอยู่เลยทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีผ้าผืนเล็กๆที่รู้สึกเหมือนจะเปียกน้ำวางอยู่บนหน้าผากพอหันไปเจอก็พบหญิงสาวนิรนามไม่สิยัยคู่อรินั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือของผมพรางนั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่
“ตื่นแล้วเหรอ”
“?”
“เป็นอะไร...จะลุกขึ้นมาทำไมน่ะ”
“ก็เธอเข้ามาได้ไงเล่า”
(กลับมาตั้งแต่ตอนไหนล่ะเนี่ย)
“อะไรวิว...พี่สาวจะเข้ามาดูแลน้องชายที่กำลังใกล้ตายมันแปลกตรงไหน”
(พี่สาวอีกแล้วเรอะ...ใกล้ตาย??)
มายพอรู้ว่าผมตื่นก็คว่ำหนังสือการ์ตูนลงบนโต๊ะแล้วหันมาพูดกับผม
ก็อย่างที่รู้ๆคือเธอคนนี้ก็คือพี่สาวต่างสายเลือดของผมอีกคนหนึ่ง...ความจริงก็ไม่ถึงขั้นเป็นพี่สาวหรอกครับเพราะมายอายุห่างจากผมเพียงแค่ห้าเดือน(แต่ก็อายุมากกว่าเรานี่เนอะก็คงเป็นพี่สาวแหละ)
“ชั้นซึ้งใจมากเลยนะกับคำว่าใกล้ตาย”
“ฉันเป็นผู้หญิงแสนดีมากเลยใช่ไหมล่ะ”
“ชั้นประชด!...อึ้ย...โลกมันหมุนไปหมด”
“ก็จะรีบลุกพรวดพราดขึ้นมาทำไมเล่า”
“ก็เธอ...ชั่งเถอะ...ชั้นไม่มีเรี่ยวแรงจะเถียงเธอ”
“...นอนต่อเถอะฉันจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอก...”
“...เธอพูดอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่านี่”
“งั้นหรอ...งั้นชั้นขอนอนต่อสักพักนะ”
“...”
....................................................................
14.30 น.
“มาย”
ผมหลับไปอีกรอบแน่นานแค่ไหนก็ไม่แน่ใจแต่อาการปวดหัวตอนนี้ก็ทำให้หลับไม่สนิทหรอกแต่ฝืนนอนเพราะอยากให้หายไวๆ...พอผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็เห็นมายยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เดิมพอเธอรู้ว่าผมตื่นก็วางหนังสือลงที่โต๊ะแล้วหันมามองผม
“....ตื่นแล้วเหรอ...อาการเป็นไงบ้างหล่ะ”
“ก็รู้สึกดีขึ้นกว่าตอนที่ตื่นขึ้นมารอบแรกแหละ...แล้วเธอ...”
“อะไร?”
“เธอไม่ได้ออกไปไหนเลยหรอ?”
“ก็ไม่นิทำไมอ่ะ?”
“ปะ...เปล่า....นี่กี้โมงแล้ว”
“บ่าย2ครึ่งล่ะ...กินอะไรหน่อยไหมเดี๋ยวจะไปเอามาให้”
“ไม่เป็นไร...ฉันลงไปกินเองได้”
ความจริงตัวผมตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรงหรอกแต่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ที่จะให้มายลงไปเอาให้...อีกอย่างตอนนี้ผมก็หิวแค่น้ำคงไม่หนักหนาอะไรเลยแค่เดินลงไปข้างล่าง
“ไม่สบายก็นอนเฉยๆเถอะ”
มายพูดจบก็เดินออกไปนอกห้องผมทันที
“ดะ..เดี๋ยว!”
“...”
(โอ้ย...ไม่น่ารีบลุกขึ้นมาเลย...มึนหัวชิปหา-...ยัยบ้านั่นก็ไม่ฟังเราเลย..ชั้นหิวแค่น้ำเว้ย!!)
..................................................................
มายหายไปได้ประมาณ10นาทีก็กลับมาแล้วเรียกผมที่กำลังนอนพักสายตาอยู่
“นี่วิว...ข้าวกับยามาแล้ว”
“หืม...?”
(ถ้วย...ข้าวต้มเหรอ...สงสัที่พี่มิ้นทำเมื่อเช้า)
“ขะ...ขอบใจนะ...วางไว้ตรงโต๊ะนั้นก็ได้เดี๋ยวชั้นลุก...เฮ้ย...ขยับเก้าอี้มาข้างเตียงทำไมน่ะ!”
ตอนแรกมายวางถาดที่มีถ้วย...ยา...แล้วก็น้ำไว้บนโต๊ะหนังสือผมก็คิดว่าจะให้ผมไปนั่งกินตรงนั้นแต่ที่ไหนได้เจ้าหล่อนกลับถือแค่ถ้วยข้าวต้มพร้อมดึงขยับโต๊ะมานั่งที่ข้างเตียงผม
“...ลุกไหวไหม...ค่อยๆลุกขึ้นนั่งนะ”
(ไม่ฟังที่เราถามรึไงเนี่ย...เออๆๆนั่งกินที่เตียงก็ได้)
“...?”
“...อะไร?”
“เธอไม่ส่งถ้วยกับช้อนให้ชั้น?”
“ไม่เป็นไรฉันถือได้มันไม่ค่อยร้อนหรอก...อุ่นๆเอง”
“ไม่ได้หมาย--...จะ...จะทำอะไรน่ะ”
“ป้อนไง?”
“บ้า...ชั้นกินเองได้ชั้นไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น”
“เป็นคนป่วยก็นั่งกินเฉยๆพอฉันจะป้อนเอง”
“แต่--”
“ไม่ต้องอายหรอกน่าไม่มีใครเห็นหรอก”
“...”
(เอาไงดีว่ะ...แต่ยัยนี่ก็เคยจิ้มฮอตดอกใส่ปากเรามาแล้วนี่หว่า...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย)
“เร็วหน่อยสิรีบกินข้าวกินยานอนพักผ่อนจะได้หายไวๆ...ฉันไม่ว่างมานั่งดูนายทั้งวันทั้งคืนนะ”
“...”
(ก็ใครใช้ให้มาเฝ้าเล่า)
“วิวน่ะโชคดีสุดๆแล้วรู้ไหมที่มีฉัน...พี่สาวสุดแสนจะน่ารักคนนี้คอยดูแล...พี่สาวจะป้อนข้าวน้องชายที่ใกล้ตายมันเป็นเรื่องธรรมดาน่า”
“...อือๆๆ...ก็ได้”
“....”
(อือ...อร่อยดีแฮะ...แต่มันร้อนๆไปหรือเปล่า)
“...เธอยิ้มอะไร?”
“เปล่านี่”
(อะไรของยัยนี่...ป้อนเราไปยิ้มไป)
“...............................................................”
“...............................................................”
ตอนนี้ผมกินข้าวต้มโดยมีมายเป็นคนป้อน(อายแฮะ)หมดไปครึ่งถ้วยแล้ว...แล้วก็รู้สึกว่าจะกินต่อไม่ไหวอีกแล้วด้วย
เลยบอกกับมาย
“ชั้นกินไม่ไหวแล้ว”
“เหลืออีกตั้งเยอะนะ....อีกคำสิ”
มายมองหน้าผมก่อนจะตักข้าวต้มขึ้นมาอีกช้อน
“คำสุดท้ายนะ”
“....”
“....”
พอผมกินเสร็จมาก็ลุกเอาถ้วยไปวางไว้ที่ถาดบนโต๊ะแล้วหยิบน้ำกับยากลับมานั่งที่ข้างเตียงผมแล้วยื่นมาให้ผม
“น้ำกับยา”
“...”
“...ตัวยังร้อนอยู่เลยนะ...นอนเถอะ”
(ยัยนี่แตะหน้าผากเราเหมือนพี่มิ้นเลยแฮะ...ตัวยังร้อนอยู่???)
“...เธอมาอยู่กับชั้นแบบนี้ไม่กลัวติดไข้เหรอ”
“ไม่กลัวหรอก...ฉันเรียนแพทย์นะ”
“พูดอย่างกับเรียนแพทย์แล้วจะไปเจ็บไม่ป่วย”
“ฉันดูแลตัวเองได้น่า...ไม่เหมือนวิวหายไปแค่คืนเดียวกลับมานอนโทรมเชียว”
(ก็จะไม่ให้ปวดหัวได้ไงเล่าก็เมื่อเช้า...ชั่งเถอะ...แต่ที่อาจารย์กิ่งพูดว่า“วิวเธอจะเลือกใคร”นี่หมายความว่ายังไงนะ...พูดแค่คำเดียวแล้วก็เงียบไปเลย...พยายามอธิบายอะไรก็ไม่ฟัง...เฮ้อคงจะโดนเกลียดเข้าแล้วแหงๆ)
“...อือจริงด้วยเมื่อวันพฤหัสมีรุ่นพี่ฝากจดหมายมาให้เธอน่ะชั้นเก็บไว้ในลิ้นชักตรงนั้น...ว่าจะให้เธอตั้งนานล่ะแต่ลืมซะสนิทเลย”
“...ซองสีชมพูใช่รึเปล่าฉันเห็นตั้งแต่วันศุกร์แล้ว...ลายมือก็ดีนะแถมยังเขียนมาเหมือนกลอนเลย...แต่ฉันไม่อ่อนไหวกับจดหมายรักแบบนี้หรอก...เอาถ้วยไปเก็บก่อนนะวิวก็นอนได้แล้ว”
“เดี๋ยวเธอเห็นจดหมายนั่นได้ไง...เธอเข้าห้องชั้นเหรอ”
“...ก็เห็นห้องมันลกๆน่ะ...”
(ออกนอกห้องไปแล้ว...สรุปแล้วคนที่เข้ามาเก็บห้องให้เราคือมายหรอกรึ...บอกไว้แล้วนี่ว่าจะขอบคุณคนที่เข้ามาเก็บห้องให้...แต่ดันเป็น...เอาไว้ก่อนแล้วกันขอนอนอีกซักหน่อยเถอะ)
...................................................................
ย้อนกลับไปเวลา 10.30 น.
ขณะที่พระเอกของเรากำลังนอนสลบไสลเพราะพิษไข้ที่เริ่มก่อตัวขึ้น
เรามาดูความเป็นไปของคนอื่นๆกันสักหน่อยดีกว่า
...................................................................
“...คุณหนูค่ะ...คุณหนู”
“...”
“หาคุณหนูอยู่หรอครับพี่ดวง...คุณหนูออกไปข้างนอกน่ะครับ”
“แล้วมีใครไปด้วยหรือเปล่าดาว”
“คุณหนูบอกจะออกไปคนเดียวครับ”
“ไม่ได้นะเรารีบตามคุณหนูไปกันเถอะ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแย่แน่”
“โธ่พี่ดวงคิดในแง่ร้ายไปแล้วครับ...ผมว่าที่คุณหนูเค้าออกไปคนเดียวก็คงเป็นเพราะคุณหนูต้องการความเป็นส่วนตัวบ่างน่ะครับการมีคนคอยตามตลอดมีแต่จะทำให้อึดอัดนะครับ”
“แต่--”
“นะครับพี่เดือน...อ่าจริงด้วยไหนๆคุณหนูก็ไม่อยู่...เราสองคน...”
“...อะไรน่ะเมื่อกี้กอดพี่ยังไม่พอเหรอ...ดาว...มือลูบอยู่ตรงไหนน่ะ...ดะเดี๋ยว....
...................................................................
ณ
ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี
“...ฟ้าจ๊ะ...ขอโทษนะจ๊ะที่พี่มาช้า”
“ฟ้าก็เพิ่งมาเองค่ะ”
“คนเยอะทุกวันเลยน๊า”
“เชิญนั่งก่อนค่ะพี่มิ้น...พี่มิ้นทาอะไรมายังค่ะ”
“ยังเลยจ่ะ”
“งั้นเราทานข้าวไปคุยกันไปนะค่ะ”
“จ่ะ”
“....พี่คะ...ขอสั่งอาหารหน่อยค่ะ”
“...มะ..เมนูครับผม”
“ขอบคุณค่ะ...พี่มิ้นสั่งอะไรดีค่ะ”
“งั้นพี่เอา....
“แค่นี้ค่ะ”
“?...ที่หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าค่ะ?”
“ปะ...เปล่าครับ...งั้นรอสักครู่นะครับ”
“...”
“...”
“...พี่มิ้นเสน่ห์แรงจังเลยนะค่ะไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เป็นที่สนใจของหนุ่มๆ...อะไม่ใช่แค่หนุ่มๆสิแม้แต่สาวๆบางคนยังสนใจพี่มิ้นเลย...แบบนี้จะมีใครมั้ยน๊าที่สวยสู้พี่รหัสฟ้าได้
คิคิคิ”
“แหมน้องฟ้าล่ะก็...ชมแบบนี้พี่ก็เขินเหมือนกันนะคิคิ...น้องฟ้าเองก็สวยไม่ต่างจากพี่หรอกจ่ะ...แต่ที่บอกว่าพี่สวยที่สุดน่ะผิดถนัดเลยจ่ะ”
“ยังมีผู้หญิงที่สวยกว่าพี่มิ้นอีกหรอค่ะ...ในมหาลัยหรือผู้หญิงที่ฟ้าเคยพบมานี่พี่มิ้นงดงามที่สุดแล้วนะค่ะ”
“มีสิจ๊ะสวยมากๆเลยด้วย...ผู้หญิงคนนั้นเค้าเป็นญาติพี่เองจ่ะ...เคยไปที่มหาลัยเราด้วยนะ...ไว้เดี๋ยวถ้าเค้ามาที่นี่เดี๋ยวพี่จะแนะนำให้รู้จักจ่ะ”
“ค่ะ...แต่ผู้หญิงที่สวยกว่าพี่มิ้นฟ้านึกภาพไม่ออกเลยจริงๆค่ะ”
“ทุกอย่างบนร่างกายของเธอคนนั้นเพอร์เฟกต์ไปหมดทุกอย่างเลยจ่ะ...คิคิ...ขนาดพี่ยังอยากได้แบบนั้นบ้างเลย”
“แค่นี้พี่มิ้นก็เนื้อหอมสุดๆแล้วค่ะ”
“...อาหารที่สั่งได้แล้วครับ”
“...”
“อร่อยดีนะค่ะ”
“จ่ะ...แบบนี้ถ้าเค้าคนนั้นได้กินคงต้องชอบแน่”
“ใครหรอค่ะ”
“น้องพี่น่ะ”
“พี่มิ้นมีน้องด้วยหรอค่ะ...ผู้ชายหรือผู้หญิงค่ะ”
“ทั้งคู่แหละจ่ะแต่---”
“เอ่อคุณครับคือว่า”
“?...มีอะไรเหรอค่ะ”
“ผม...ขอเบอร์คุณหน่อยได้ไหมครับ”
...................................................................
12.00 น.
“เที่ยงแล้วค่ะพี่มิ้นเราหานั่งทานอะไรกันหน่อยดีไหมค่ะ”
“ก็ดีจ่ะ...แต่พี่ไม่เอาร้านนั้นแล้วนะ”
“ค่ะ”
“ฟ้า...เราเข้าร้านนี้กันเถอะจ่ะ”
“...ร้านนี้คนน้อยดีนะค่ะ...เดี๋ยวฟ้ามานะค่ะ”
“จ่ะ”
“...”
“...”
“...น้ำค่ะพี่มิ้น”
“ขอบใจจ่ะ”
“พี่มิ้นกลัวเจอผู้ชายคนนั้นอีกใช่ไหมค่ะถึงได้มาร้านนี้
คิคิ”
“ก็นะ...แต่เค้าก็ตื้อเก่งมากเลยนะนั่งเฝ้าพวกเราจนถึงตอนที่เราออกจากร้านเลย”
“เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าค่ะ”
“ไม่หรอกจ่ะ...แต่พอเจอผู้ชายแบบนี้พี่ก็อึดอัดเหมือนกันนะเคยเจอแต่พวกที่ชอบแอบมองแล้วชมกันห่างๆว่าเราสวยอย่างโน้นทีสวยอย่างนี้ทีเพิ่งเคยจะเจอคนที่เข้ามาตื้อขอเบอร์แบบนี้เป็นครั้งแรก”
“ยังดีนะค่ะพี่มิ้นที่ไม่ใช่สามคนนั้น”
“คือฟ้าโดนผู้ชายสามคนเข้ามาขอเบอร์น่ะค่ะ...พอฟ้าไม่ให้เค้าก็จะมาทำร้ายฟ้า”
“แย่แล้ว!...แล้วน้องฟ้าเป็นอะไรตรงไหนรึเปล่าจ๊ะ”
“ฟ้าปลอดภัยดีค่ะพี่มิ้นยังดีนะค่ะที่...มีคนเข้ามาช่วย...แต่ฟ้าก็ได้ตบหนึ่งในสามคนนั้นไปตั้งทีนึงนะค่ะ
คิคิ”
“น้องฟ้ายังขำได้อีกนะ...แบบนั้นมันอันตรายนะ...เอ๋...แต่เมื่อกี้ที่บอกมีคนมาช่วยนี่...น้องรหัสพี่ดูหน้าแดงๆนะ...มีอะไรรึเปล่าน๊า”
“มะ...ไม่มีอะไรค่ะพี่มิ้น”
“หน้าแดงขึ้นอีกแล้วนะจ๊ะ...แล้วคนที่เข้ามาช่วยน้องฟ้าเป็นแบบไหนหรอจ๊ะ”
“...คือ...”
“นะๆๆ...บอกพี่รหัสคนนี้หน่อยนะ”
“ก็...เป็นผู้ชายที่ดูเป็นสุภาพบุรุษมากเลยค่ะแถมยังดูอ่อนโยนมากด้วย...ประมาณนี้แหละค่ะพี่”
“แล้วได้พูดคุยกับเขาบ้างไหมจ๊ะ”
“ได้คุยกันนิดหน่อยเองค่ะพี่มิ้น”
“แล้วได้ถามชื่อเขาไว้ไหมจ๊ะ”
“ถามค่ะ...เขาชื่อ--”
“แปปนึงนะจ๊ะฟ้าเดี๋ยวพี่มา...มายๆๆ”
“...”
.................................................................
“...มาย”
“พี่ออกมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”
“สวัสดีค่ะพี่มิ้น/สวัสดีค่ะพี่มิ้น”
“สวัสดีจ่ะเฟิร์นสวัสดีจ่ะพราว...พี่ออกมาทำธุระน่ะแล้วมายน้องจะไปไหนต่อหรือเปล่า”
“มายว่าจะไปเที่ยวบ้านเฟิร์นต่อน่ะค่ะพี่...อือจริงด้วยแล้ว...แล้วอีตาบ้านั่นกลับมายังค่ะ”
“พี่จะมาบอกน้องเรื่องนี้แหละ...คือวิวกลับมาตั้งแต่เช้าแล้ว...แต่ดูท่าทางจะไม่สบายน่ะพี่เลยคิดว่าถ้ามายไม่มีธุระก็น่าจะกลับไปดูหน่อยนะตอนนี้พี่ไม่ว่างจริงๆ”
“...เป็นสิ่งที่มายสมควรทำอยู่แล้วค่ะ...มายจะกลับไปดูวิวเองค่ะ”
....................................................................
“...พี่กลับมาแล้วจ่ะน้องฟ้า”
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้ใครหรอค่ะพี่มิ้น”
“น้องสาวพี่เองจ่ะ...ชื่อมาย”
“ถึงว่าค่ะ...หน้าตาคล้ายกันมากเลย...สวยทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะค่ะ
คิคิ”
..........................................................................................................................
..................................................................
25 มิถุนายน 2556
18.00 น.
“พาผมมาที่ห้างทำไมหรอครับ”
“มีของที่อยากซื้อหน่อยน่ะ...เราไปทางนั้นกันเถอะ”
“ครับ”
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะเธอดูเกร็งๆนะวิว”
“...เอ่อคือว่าผมมีเรื่องที่ข้องใจอยู่น่ะครับ”
“ข้องใจอะไรเหรอ?”
(น้ำเสียงก็ยังไม่ผิดไปจากตอนกลางวันมากเลย)
“ทะ...ทำไมถึงชวนผมออกมาหรอครับ”
“อืม...ก็คงอยากจะออกมาเดทด้วยหรือเปล่านะครั้งแรกนี่ที่ได้มาเดินห้างด้วยกัน”
“ถ้าเป็นเวลาปกติผมก็ไม่สงสัยหรือข้องใจหรอกครับแต่...”
“...”
(ไม่ตอบแฮะ...อะไร...ช่วง2-3วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นละเนี่ยยย??)
“...นั่น....พี่ดา...พี่ดาใช่ไหมค่ะ!”
(?...คนรู้จักหรือ?)
....................................................................
..............................................................
ตอนต่อไป...
จะขอคั่นด้วยแขกรับเชิญพิเศษที่จะมาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ให้เราฟังกันสักหน่อยนะครับในชื่อตอนว่า“Sudarat Sidestory”.....
และส่วนเรื่องราวของวิว,กัน,และกิ่งจะลงเอยแบบใดคงจะได้อ่านกันอีกในไม่ช้า
หรือใครมีข้อเสนอแบบใดแนะนำเข้ามาได้นะครับหรอใครจิ้นใครเป็นพิเศษหรือจินตนาการไว้แบบไหนก็บอกกล่าวกันได้เช่นเดียวกัน...แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าครับ...
..........................................................................................
.........................................
.....................................................
.........................................
.....................................................
อ้ากมาเยอะๆหน่อยครับกำลังได้ลุ้น ขอบคุณครับผม
ตอบลบนายวิว
ตอบลบมีเวลาไตร่ตรองหัวใจตัวเองบ้าง ก็ดีนะ
อยากให้มาไวไว
ตอบลบติดตามผลงานของคุณสายลมอยู่ตลอด เริ่มต้นก็ดีอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้เนื้อเรื่องแตกแขนงน่าสนใจมากขึ้น แต่ถนอมเนื้อถนอมตัวหน่อยก็ดีครับ อย่าไปทะเลาะกับใครเลย วัดกันที่ผลงานดีกว่า รับรองต่อไปแฟนตรึม (ด้วยความเป็นห่วงครับ....)
ตอบลบอย่าให้รอนานนะครับ
ตอบลบเนื้อเรื่องน่าติดตามมาก เหมือนอยู่ในเหตุการณ์
ตอบลบขอบคุณผลงานดีๆ
ตอนนี้จะไม่มีคำบรรยายนะครับ จะใช้บทพูดและความนึกคิดออกมาถ่ายทอดสถานการณ์ต่างๆ แนะนำเพิ่มนิด ให้อ่านช้าๆและนึกภาพ ตัวดำเนินเรื่องที่กำลังตกอยู่ในความเศร้าหมอง
ตอบลบออกมาเยอะเยอะให้จบเลยไม่ได้เหรอ อ่านนิดนิดหน่อยหน่อย ไม่ค่อยปะติดปะต่อเลยนะ
ตอบลบเรื่องนี้เดาไม่ออกเลยว่าใครเป็จางเอก
ตอบลบขอปรับเปลี่ยนบทนิดหน่อยนะ เพิ่มเหตุการณ์หนึ่งเข้าไปเลยอยากเพิ่มการบรรยายเข้าไปด้วย
ตอบลบนางเอกทุกคนนะครับแหม่ คิดว่าจะได้รวมใหม ผมไม่รู้นะครับแล้วแต่วาทะศิลป์ของพระเอก55 รอติดตามต่อครับ
ตอบลบปล.หายไปนานมาอีกทีอ้าวบล็อคหายไปใหน ใจหายแว็บ นึกว่าจะอดเหมือนเพื่อนรักซะแล้ว
url ของบล็อกดูซ้ำๆน่ะครับ เลยเปลี่ยนเผื่อจะจำง่ายขึ้น
ลบสถานที่ต่างกันความรู้สึกต่างกันครับ ถ้ายังมีคนอ่านผมก็ไม่หยุดเขียนหรอกครับ ถ้าเขียนไม่จบมันก็ดูค้างๆคาๆนะ แค่ออกมาบอกว่ายังอ่านกันอยู่ผมก็มีกำลังใจแล้วครับ
รออยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบลบประกาศ: ส่วนที่เหลืออาจจะช้าสักนิดนะครับ นับวันรอได้เลย1-10 ช่วงนี้มีภารกิจต้องเดินทาง(เที่ยว)เลยไม่ค่อยว่างน่ะครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบประกาศ: คืนนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจะลงให้อ่านพอหอมปากหอมคอก่อนสัก10-20%นะครับ ช่วงนี้ไม่ได้อยู่บ้านเลยลำบากในการเขียน
ตอบลบอ่านดูรู้เลย แคทกับฝน เฮ้ยไม่ใช่! พลอยกับพิ้งชัวร์ ว่าแต่ความจำเรื่องพลอยหายไปได้ไง รึว่ามาลาเรียขึ้นสมองเลยทำให้ความจำบางส่วนหายไป อีกอย่างดูท่าพี่มิ้นจะมีใจให้วิวไม่น้อยตอนมองหน้ากันมีแอบเขินด้วย
ตอบลบปล. ท่านสายลมสับสนพิมพ์กิ๊กเป็นกันด้วย
ประโยคนี้ใช่ไหมครับ
ตอบลบ...ผมประกบปากกับกิ๊กอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆจากนั้นผมก็สอดลิ้นผ่านเข้าไปพัวพันกับลิ้นของ“กัน”ส่วนมือก็เริ่มปาดป่ายผ่านเอวกิ๊กขึ้นมาที่หน้าอกของเธอจนกิ๊กเริ่มครางขึ้นในลำคอ...
แก้ไขให้แล้วนะครับ
จะว่าไปแล้วแสดงว่าคุณNaKungอ่านละเอียดมากเลยนะครับ ถึงได้สังเกตเห็นความผิดปกติที่อยู่ในอักขระนับหมื่นได้(18544อักขระ/256คำ)
ขอบคุนคับ ชอบแนวนี้สุดๆ
ตอบลบแอบเชียครับ กำลังจะเข้าที่ละ บอกตามตรง ตอนแรกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คล้ายๆ เนื้อเรื่องช่วงแรกๆ จะเหมือนของท่าน adslman ไปซะหมด แบบว่าลอกเขามาทั้งดุ้น เช่นมีพี่น้องในบ้าน มีคู่หมั้นตั้งแต่เด็ก ดันจำเรื่องตอนเด็กไม่ได้อีก (บ่งตง ไม่ปลื้มๆ) ช่วงหลังๆ มีการแตกออกมา เนื้อเรื่องเริ่มแยกไปอีกทาง เช่น จักรวาลคู่ขนาน ซ่ำจาร + น้อง (ถึงตอนนี้ เริ่มเห็นว่าท่านสายลมเริ่มมีแนวทางของตัวเองบ้าง) แต่ ลักษณะการดำเนินเรื่อง การเล่าเรื่องราว ยังมีกลิ่นของท่าน adslman ค่อนข้างมาก เช่นการเขียนภาคหลักมีการสอดแทรก ภาคเสริมของตัวละครแต่ละคน
ตอบลบอยากให้ท่านสายลมพยายามหลุดพ้นออกจากท่าน adslman แล้วมีแนวทางของตัวเองเพื่อพัฒนาผลงาน ที่เป็นไป ในทางของตัวเองครับ ถึงตอนนั้นทางผมและผู้อ่านท่านอื่นๆ จะมีสุดยอดนักเขียน 2 ท่าน ไว้ให้ติดตาม คือ ท่าน adslman และ ท่านสายลม (ไม่ใช่ adslman และ adslmanจำแลง )
สุดท้ายเรื่องคำผิด สำหรับผมไม่ค่อยซีเรียสนะ(ค่อยๆแก้ไขไปครับเขียนไปมากๆก็จะเข้าที่เอง) ผมห่วงเรื่อง แนวทางของเนื้อเรื่องมากกว่า
ที่เขียนมาทั้งหมดเพราะหวังดีแระรักทั้ง 2 ท่าน หากคำไหมทำให้ไม่สบายใจต้องขออภัยมา ณ โอกาศนี้ด้วยครับ
ยินดีรับฟังเป็นอย่างยิ่งเลยครับ มีประโยชน์มากจริงๆ ตอนนี้ค่อยๆปรับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆตามโอกาสครับ ยังไงก็ขอให้ติดตามนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อเสนอดีๆครับ
ลบขอบคุณที่รับฟังเช่นกันครับ ผมเชื่อว่า ท่าน adslman ก็คงดีใจเช่นกันถ้าหากท่านสายลม สามารถเขียนแล้วเนื้อเรื่องออกมาดีเทียบเท่าหรือดีกว่าท่าน adslman เพราะเหมือนกับว่าท่านสายลมเปรียบเสมือนน้องที่ได้รับแรงบรรดารใจมาจากท่าน adslman (อันนี้ผมคิดเอาเองนะ ถ้าผมเป็นท่าน adslman ผมคงปลื้มไม่น้อยเลยทีเดียว)
ลบเรื่องตัวละคร ผมชอบที่ท่าน เอาป้าศรี และอ้อย มาร่วมแสดงด้วย เหมือนนักแสดงรับเชิญเลย ความคิดเห็นส่วนตัวไม่อยากให้พระเอกของเราไปซ่ำ 2 คนนี้ เลยครับ เหมือน ของต้องห้ามของบอลเค๊า ^^
สุดท้าย ที่มีความสุขตามมาคือ ผู้อ่านอย่างพวกผมที่ได้อ่านของ ทั้ง 2 ท่าน ไม่ต้องลงแดง รอของท่าน adslman คนเดียว
555+เรื่องป้าศรีกับอ้อยตอนนั้น ไม่ใช่คนเดียวกันครับ#แค่มีชื่อเหมือนกันเฉยๆครับ แล้วก็เวลานี้ยังไม่มีแขกรับเชิญจากเรื่องของท่านadslmanนะครับ เพราะยังอยู่คนละช่วงเวลาหรือคนละ(โลก?) แต่ถ้าพูดถึงในอนาคตนี่ก็ไม่แน่นะครับ บางทีที่หมอดูลึกลับเปยๆไว้อาจจะเป็นปกติจริงก็ได้(ไปๆมาๆแอบสปอยล์ซะงั้น?) จะเป็นยังไงก็ต้องคอยติดตามนะครับ ส่วนตอนนี้ ตอนที่7 จะจบในค่ำคืนนี้แน่นอน^^
ลบสนุกมากครับ
ตอบลบผมนี่รีบอ่านเลย จบตอนสักทีรอน๊านนานนนนนน มาต่อไวๆนะครับบบบบ
ตอบลบ