Destiny of love ตอนที่ 5
Destiny of love
ตอนที่ 5 “เข้าใจผิดเพี้ยน!?..ข้าวเที่ยง”
17 มิถุนายน 2556
6.00 น.
“วิว!”
“...”
“วิว!!”
“...?”
“ตื่นได้แล้ว!!”
“หือ...อะไร-..ฮะเฮ้ยย!!”
“มาปลุกไง!?”
“มาปลุกดีๆไม่ได้เรอะ...แล้วทำไมต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วย!”
“ก็ไม่ตื่นสักทีนี่”
“แล้วยื่นหน้ามาใกล้แบบนั้นคิดจะทำอะไรเล่า”
“อะไรกันวิว!..พี่สาวก็อุตส่าห์หวังดีกลัวจะไปมหาลัยสาย...รีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปกินข้าวได้แล้ว”
มายพูดจบก็เดินออกจากห้องผมไปเลย
(พี่สาวเรอะ!!...จะสายมันก็เรื่องของชั้นไม่ใช่หรือไง!?)
เช้าวันจันทร์ของชีวิตเด็กมหาลัยอย่างผมวันนี้ก็มีเรื่องวุ่นๆที่ทำให้ตกใจมาหาแต่เช้าจะเป็นใครไปได้อีกครับก็วันวันนี้พี่สาว(ฝืนใจเรียก)นึกไงไม่รู้เข้ามาปลุกแต่เช้าแต่แค่ปลุกธรรมดาก็จะไม่โวยวายขนาดนี้หรอกก็มันตกใจนี่ครับที่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าสวยๆ(ยัยนี่ก็ถือว่าสวยจริงนะ)ของพี่มายศิณีย์อยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึง10เซน.แล้วสายตาแบบนั้นอีกมันคืออะไร?
พอเจอแบบนั้นเข้าไปทำให้หัวใจมันเต้นแรงไม่หยุดก็ปกติถ้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนั้นก็มีแต่ตอนจะจูบกันเท่านั้นแหละแล้วตัวผมก็ใช่ว่าจะไร้เดียงสาซะที่ไหนล่ะจะว่าล่าสุดก็เพิ่งเมื่อคืนนี้เองแต่ผมก็ยังอุตส่าห์ฝืนสังขารกลับมาบ้านได้อีก
(“วิวคะใกล้จะหมดเวลาแล้วนะเดี๋ยววิวจะหลับเพลินนะ”
“อ่า...ขอโทษนะครับกัน”
“ความจริงก็ยังพอมีเวลาหน่ะค่ะ”
“...กันอายุเท่าไหร่หรอครับ”
นี่ก็ยังมีเวลาผมเลยคิดว่าจะคุยกับเธออีกสักหน่อย...ตอนนี้กันใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วและกำลังนั่งหวีผมที่ตอนแรกกระเซอะกระเซิงจากเกมรักของเรา...ส่วนผมกำลังนอนอยู่บนเตียงและกำลังจะลุกไปใส่เสื้อผ้า
“เดือนหน้าก็28แล้วค่ะ”
เป็นแบบที่คิด...กันอายุมากกว่าผมอยู่มากจริงๆด้วยตอนแรกคะเนจากหน้าตาคิดว่าประมาณ25-26
“งั้นผมต้องเรียกพี่ใช่ไหมครับ...เราอายุห่างกันมากพอสมควรเลย”
“กันไม่ถือหรอกค่ะวิว...เรียกชื่อกันแบบนี้แหละดีแล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมลุกขึ้นจากที่นอนด้วยร่างที่เปลือยเปล่าเดินผ่านหน้ากันไปหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนโต๊ะอีกฝั่งหนึ่งดูเหมือนว่ากันจะเป็นคนเอาขึ้นมาพับให้เพราะตอนแรกมันกองอยู่บนพื้น...ตอนที่ผมเดินผ่านหน้ากันไป ดูเหมือนเธอจะหน้าแดงนิดๆแถมมองน้องชายผมตาแทบไม่กระพริบเลย...เห็นสาวเจ้ามองแบบนี้ก็เริ่มจะแข็งเหมือนกันแฮะแต่เวลาก็หมดแล้วเลยต้องทำใจ
“วิวนี่ฟื้นตัวไวจังเลยนะคะ...พักแปปเดียวเอง”
“ขะ..ขอโทษครับ”
“...วิวอยากอีกไหมคะ”
“...เวลาใกล้หมดแล้วใช่ไหมครับผมคงไม่มีโอกาสแล้ว”
“ถ้าวิวขอเราก็ไปต่อที่อื่นได้นะคะ...แต่กันก็มีธุระต่ออีกคืนนี้คงไม่ได้”
(ต่ออีกงั้นหรอแต่เราไม่ค่อยมีเงินด้วยสิ...แต่เธอคงจะไปทำงานต่อมั้ง...น่าเสียดายผู้หญิงสวยๆแบบกันทำไมต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยนะ)
“ได้เวลาแล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมแต่งตัวเสร็จก็คงจะหมดเวลาพอดีเพราะกันบอกแบบนั้นผมเลยกำลังจะเดินออกจากห้องไปหาไอ้ซิกที่คาดว่าหน้าจะเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน...แต่พอมาถึงประตูกันก็เข้ามากอดผมจากด้านหลังพร้อมเอ๋ยประโยคที่ไม่หน้าจะได้ยินจากหญิงขายบริการ
ตอนที่ 5 “เข้าใจผิดเพี้ยน!?..ข้าวเที่ยง”
17 มิถุนายน 2556
6.00 น.
“วิว!”
“...”
“วิว!!”
“...?”
“ตื่นได้แล้ว!!”
“หือ...อะไร-..ฮะเฮ้ยย!!”
“มาปลุกไง!?”
“มาปลุกดีๆไม่ได้เรอะ...แล้วทำไมต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วย!”
“ก็ไม่ตื่นสักทีนี่”
“แล้วยื่นหน้ามาใกล้แบบนั้นคิดจะทำอะไรเล่า”
“อะไรกันวิว!..พี่สาวก็อุตส่าห์หวังดีกลัวจะไปมหาลัยสาย...รีบอาบน้ำแต่งตัวลงไปกินข้าวได้แล้ว”
มายพูดจบก็เดินออกจากห้องผมไปเลย
(พี่สาวเรอะ!!...จะสายมันก็เรื่องของชั้นไม่ใช่หรือไง!?)
เช้าวันจันทร์ของชีวิตเด็กมหาลัยอย่างผมวันนี้ก็มีเรื่องวุ่นๆที่ทำให้ตกใจมาหาแต่เช้าจะเป็นใครไปได้อีกครับก็วันวันนี้พี่สาว(ฝืนใจเรียก)นึกไงไม่รู้เข้ามาปลุกแต่เช้าแต่แค่ปลุกธรรมดาก็จะไม่โวยวายขนาดนี้หรอกก็มันตกใจนี่ครับที่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าสวยๆ(ยัยนี่ก็ถือว่าสวยจริงนะ)ของพี่มายศิณีย์อยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึง10เซน.แล้วสายตาแบบนั้นอีกมันคืออะไร?
พอเจอแบบนั้นเข้าไปทำให้หัวใจมันเต้นแรงไม่หยุดก็ปกติถ้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนั้นก็มีแต่ตอนจะจูบกันเท่านั้นแหละแล้วตัวผมก็ใช่ว่าจะไร้เดียงสาซะที่ไหนล่ะจะว่าล่าสุดก็เพิ่งเมื่อคืนนี้เองแต่ผมก็ยังอุตส่าห์ฝืนสังขารกลับมาบ้านได้อีก
(“วิวคะใกล้จะหมดเวลาแล้วนะเดี๋ยววิวจะหลับเพลินนะ”
“อ่า...ขอโทษนะครับกัน”
“ความจริงก็ยังพอมีเวลาหน่ะค่ะ”
“...กันอายุเท่าไหร่หรอครับ”
นี่ก็ยังมีเวลาผมเลยคิดว่าจะคุยกับเธออีกสักหน่อย...ตอนนี้กันใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วและกำลังนั่งหวีผมที่ตอนแรกกระเซอะกระเซิงจากเกมรักของเรา...ส่วนผมกำลังนอนอยู่บนเตียงและกำลังจะลุกไปใส่เสื้อผ้า
“เดือนหน้าก็28แล้วค่ะ”
เป็นแบบที่คิด...กันอายุมากกว่าผมอยู่มากจริงๆด้วยตอนแรกคะเนจากหน้าตาคิดว่าประมาณ25-26
“งั้นผมต้องเรียกพี่ใช่ไหมครับ...เราอายุห่างกันมากพอสมควรเลย”
“กันไม่ถือหรอกค่ะวิว...เรียกชื่อกันแบบนี้แหละดีแล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมลุกขึ้นจากที่นอนด้วยร่างที่เปลือยเปล่าเดินผ่านหน้ากันไปหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนโต๊ะอีกฝั่งหนึ่งดูเหมือนว่ากันจะเป็นคนเอาขึ้นมาพับให้เพราะตอนแรกมันกองอยู่บนพื้น...ตอนที่ผมเดินผ่านหน้ากันไป ดูเหมือนเธอจะหน้าแดงนิดๆแถมมองน้องชายผมตาแทบไม่กระพริบเลย...เห็นสาวเจ้ามองแบบนี้ก็เริ่มจะแข็งเหมือนกันแฮะแต่เวลาก็หมดแล้วเลยต้องทำใจ
“วิวนี่ฟื้นตัวไวจังเลยนะคะ...พักแปปเดียวเอง”
“ขะ..ขอโทษครับ”
“...วิวอยากอีกไหมคะ”
“...เวลาใกล้หมดแล้วใช่ไหมครับผมคงไม่มีโอกาสแล้ว”
“ถ้าวิวขอเราก็ไปต่อที่อื่นได้นะคะ...แต่กันก็มีธุระต่ออีกคืนนี้คงไม่ได้”
(ต่ออีกงั้นหรอแต่เราไม่ค่อยมีเงินด้วยสิ...แต่เธอคงจะไปทำงานต่อมั้ง...น่าเสียดายผู้หญิงสวยๆแบบกันทำไมต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยนะ)
“ได้เวลาแล้วค่ะ”
“ครับ”
ผมแต่งตัวเสร็จก็คงจะหมดเวลาพอดีเพราะกันบอกแบบนั้นผมเลยกำลังจะเดินออกจากห้องไปหาไอ้ซิกที่คาดว่าหน้าจะเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน...แต่พอมาถึงประตูกันก็เข้ามากอดผมจากด้านหลังพร้อมเอ๋ยประโยคที่ไม่หน้าจะได้ยินจากหญิงขายบริการ
“...วิวค่ะ...คืนนี้กันมีความสุขมากเลยคะ”
(อะไรกัน...ปกติหมอนวดถ้าหมดเวลาแล้วจะทางใครทางมันไม่ใช่หรือ?)
“ถึงวิวจะเป็นคนที่2ที่กันเคยมอะไรด้วย...ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของกัน...แต่กันมีความสุขที่สุดเลยค่ะ”
“...ผะ..ผมเองก็เหมือนกันครับ”
(คนที่2ที่เคยมีอะไรกับเธอ!?...เดี๋ยวปกติ-ไม่สิมันไม่ปกติแล้ว!!!...ก็กันเป็นหมอนวดไม่ใช่เรอะ!?)
ประโยคที่กันพูดมันฟังดูแล้วจะขัดแย้งกับสถานที่นี้เหลือเกินทำไมถึงเป็นครั้งที่2ของเธอ?..นี่ทำให้ผมคิดหนักยิ่งขึ้นเพราะว่าสถานการณ์บังคับให้เธอพูดเพื่อเอาใจลูกค้าอย่างนั้นหรือ?
ผมกับกันเดินออกมาจากห้องแต่ยังไม่มาถึงไหนก็มีคนเรียกเธอดูเหมือนจะเป็นเจ้าของร้านผมเลยเดินแยกออกมาก่อน...มาถึงก็เจอไอ้ซิกนั่งคลอเคลียกับเด็กมันอยู่
“ไงเพื่อนยากให้กูรอนานเลยนะคงจะถึงสวรรค์ชั้น7เลยสิท่า”
พอได้เจอหน้าตากวนๆของไอ้นี่ทำให้ผมต้องหยุดคิดเรื่องของกันเอาไว้ก่อนเพราะจากนี้คงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว...ผมคิดแบบนั้นนะ
“ไม่ต้องพูดมากเลย”
(ไอ้หื่นซิก!่ขนาดเสร็จแล้วยังให้น้องส้มของมันนั่งตักไม่ยอมแยกจากกันอีกเรอะ)
“แล้วคู่ขามึงไปไหนล่ะ”
“กำลังออกมา...นั่นไง”
“เฮ้ยย...นั่นมัน-”
ไอ้ซิกเห็นกันก็อุทานออกมา...สงสัยมันคิดว่าเป็นคนนั้นแน่ๆ...(แค่หน้าคล้ายกันโว้ยไอ้ซิก?)
“มึงหยุดเลยเค้าแค่หน้าคล้ายกันเฉยๆ”
ไอ้ซิกทำหน้างงๆเหมือนยังคาใจแต่พอกันเดินเข้ามาใกล้ๆมันถึงแยกออก
“เออจริงด้วยพอเห็นใกล้ๆถึงแยกออก”
“เหมือนใครหรอคะ?”
กันทำหน้าสงสัย...ก็แหงหละครับโดนคนอื่นเข้าใจผิดก็ต้องอยากรู้กันบ้างว่าตัวเองเหมือนใคร
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“...งั้นกันกลับก่อนนะคะวิว”
“ครับ”
หลังจากนั้นกันก็ขับรถเก๋งสีดำที่จอดอยู่หน้าร้านออกไปดูท่าแล้วรถที่กันขับจะราคาสูงพอสมควรเลย...แต่ถึงรถกันจะขับออกไปแล้วไอ้ซิกก็ยังไม่วายจะแซวกันอีก(เค้าคงได้ยินหรอกมั้ง)
“แล้วไม่ทำงานต่อหรอคร๊าป?”
(ทำไมน้องส้มของไอ้ซิกทำหน้าตาเหมือนจะแปลกใจอะไร?)
“คือว่า...พี่ๆค่ะ!”
“?”
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะน้องส้ม”
“พี่กันเขาไม่ใช่หมอนวดนะคะพี่เขาเป็นเพื่อนผู้จัดการค่ะ..”
“!!!!???/!????”
“อะไรนะ”
ผมอุทานออกมาด้วยความมึนงง...ก็ถ้าไม่ใช่หมอนวดแล้ว...ไม่สิก็พี่คนนั้นบอก!!
“ทำไมพี่กันเขาถึงได้เปิดห้องกับเพื่อนพี่ซิกได้หล่ะค่ะ?”
”แต่พี่คนนั้นเค้าติดต่อให้นะครับ!!?”
(นี่มันอะไร...เจ้าตัวก็กลับไปแล้วด้วย)
“ยังไงจ๊ะน้องส้ม?”
“พี่ผู้ชายคนนั้นใช่ไหมค่ะ”
“ครับ”
“คือพี่เค้าเพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรกเองคะเลยยังไม่รู้จักพี่กัน”
“!!!!”
(อะไรกันสรุปเรื่องทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดเพี้ยนของเราหรือนี้ย)
“ละ..แล้วที่บอกว่าไม่ค่อยรับแขกหล่ะครับ”
“ก็พี่กันเขามานั้งรอผู้จัดการอยู่นานแล้วแล้วก่อนหน้าพวกพี่ก็มีลูกค้าเข้ามา4-5คนแล้วคะ...สงสัยพี่ผู้ชายคนนั้นเห็นพี่กันนั่งอยู่ตรงนั้นนานแล้วไม่บริการแขกแล้วก็ที่นี่ไม่มีผู้หญิงมาเที่ยวกันนี่ค่ะถ้าจะอยู่ในร้านก็มีแต่พวกหนูนี่แหละค่ะพี่ผู้ชายคนนั้นเขาก็คงจะเข้าใจผิดหน่ะค่ะ”
(หมดกันไอ้วิวเอ้ยหาว่ากันเค้าเป็นหมอนวดได้ไงวะแล้ว---โอ้ยยย!!!ถ้าเจอกับกันอีกจะกล้ามองหน้าเค้าเปล่าวะ)
“.....”
“หรอจ๊ะน้องส้ม”
“ค่ะพี่ซิก”
“ว๊าว!!!...เพื่อนกูนี่เก่งจริงเลยว่ะมาเที่ยวหมอนวดแต่กับได้เพื่อนผู้จัดการแทน
ฮ่าๆๆ ”
“ไม่ต้องมาพูดเลยมึง...กลับกันเถอะ”
“เออๆๆ”
ตอนนี้ผมเริ่มทำใจเย็นลงได้แล้วหน่อยนึงจะว่าไปถ้าเจอครั้งหน้า(ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม)จะต้องขอโทษเธอให้ได้แต่เรื่องแบบนี้จะพูดไปได้จริงหรือ?
“เอ่อแล้ว...”
“อะไร?”
ถึงตอนนี้ไอ้ซิกก็ยังคลอเคลียกับเด็กมันเหมือนเดิม
“มันน่าจะหมดเวลาแล้วไม่ใช่เรอะ?”
“ใครบอก...วันนี้กูจะพาน้องส้มไปเยี่ยมห้องหอกูโว้ย...มึงจะมาสนุกด้วยกันไหมหล่ะ”
(แค่ที่นี่ยังไม่พอรึ?...ยังอุตส่าห์เอาเค้าไปนอนที่หออีกเนอะไอ้ซิก)
“เชิญเหอะนี่ก็ดึกแล้วกูอยากกลับบ้าน”
“ไม่รองหน่อยหรอวะ...น้องส้มนี่ลีลาเด็ดดวงสุดยอดเลยนะเว้ย”
“ไม่ๆ...กูไม่อยากแย่งซีนมึง...กูจะไปเอารถที่หอมึงแล้วกลับเลย”
“เออๆ...งั้นไปกันเถอะจ่ะน้องส้ม”
(อยากจะพูดออกไปจริงๆ!!..น้องส้มมึงนี่ท่าทางจะอายุมากกว่ามึงหลายปีเลยนะไอ้ซิก!!!...แต่ก็เรื่องของมันเถอะ)
“...........................................”
“...........................................”
“...........................................”
.......................................................................................................................................................................................
22.30 น.
“...”
ผมกลับมาถึงบ้านแล้วก็เก็บรถเรียบร้อยพอเข้าบ้านมาก็เจอมายนั่งดูโทรทัศน์อยู่เลยทักยัยนี่ไป
“อ่าว..มายนี่เธอยังไม่นอนอีกหรอ”
“อืม..กำลังจะไปนอนพอดีแหละละครเพิ่งจบ”
“อ่อ...แล้วพี่มิ้นหล่ะ?”
“นอนไปนานแล้ว”
พี่มิ้นจะเป็นคนที่นอนไวสุดปกติ2ทุ่มครึ่ง3ทุ่มพี่มิ้นก็จะขึ้นไปนอนแล้วแต่มายมักติดนอนดึกซึ่งถ้าหากวันไหนผมกลับบ้านดึกๆประมาณซัก4-5ทุ่มเวลากลับมาก็จะเจอยัยนี่นั่งอยู่โซฟาน่าโทรทัศน์นี้ตลอด(จะติดละครอะไรขนาดนั้น)แต่ถ้าเกินเที่ยงคืนแล้วผมจะไม่กลับคือปกติจะนอนหอไอ้ซิก...แต่ก็มีอยู่คืนนึงที่ผมกลับมาตอนประมาณตี2ตอนนั้นกลับมาก็แปลกใจที่เห็นยัยนี่นอนหลับอยู่หน้าโทรทัศน์จนผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่จริงแล้วยัยนี่รอผมกลับบ้านหรือเปล่า!?...แต่ก็คงไม่ใช่หรอก
“...แล้วทำไมเพิ่งกลับ?”
“พอดีไปทะเลมาพอกลับมาก็นั่งเล่นอยู่หอไอ้ซิก”
(บอกไม่ได้เด็ดขาดว่าไปเที่ยวหมอนวดมาไม่สิเราไม่ได้ทำอะไรกับหมอนวดเลยก็กันไม่ใช่นี่)
“นั่งเล่น?...ได้กินเหล้ารึเปล่า”
“ก็นิดหน่อยหนะ”
(ถ้าบอกนั่งเล่นเฉยๆไม่รอดแน่)
“นี่วิวอายุแค่นี้กินเหล้ามากมันไม่ดีนะ...แล้วอีกอย่างกินเหล้าแล้วขับรถกลับมาแบบนี้มันอันตราย...เดี๋ยวก็ได้ตายก่อนวัยหรอก”
(บางทียัยนี่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่กับเค้าเหมือนกันแฮะ)
“มองอะไร!?”
คืนนี้มายใส่ชุดนอนยาวสีขาวลายรูปดาวที่ผ้าบางจนทำให้เห็นบราเซียร์สีดำลางๆ...จะว่าไปพี่มิ้นกับมายชอบยกทรงสีดำเหมือนกันรึเปล่านะ?
“ปะ..เปล่า”
“แล้วกินอะไรมายังหล่ะ?”
(จะว่าไปก็กินข้าวกับเบลไปตั้งแต่บ่าย2แล้วนี่หว่าแล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย....เริ่มหิวเหมือนกันแฮะ)
“ก็กินมาตั้งแต่บ่ายแล้ว”
“งั้นรอแปปนึงนะเดี๋ยวฉันไปอุ่นอะไรให้กิน”
“เดี๋ยวชั้นอุ่นเองก็ได้...เธอขึ้นไปนอนเถอะ”
“นั่งรออยู่ตรงนั้นแหละ”
“...................................................”
“...................................................”
ผมจะเดินเข้าไปอุ่นและหาอะไรกินเองแต่มายก็มาห้ามไว้และก็เดินหายเข้าไปในครัวสักพักก็เดินออกมากพร้อมกับข้าว3อย่างและข้าวสวยร้อนๆ
“ได้แล้ว”
“ขะ...ขอบคุณนะ”
“...”
“เอ่อ...เธอขึ้นไปนอนก่อนก็ได้นะดึกแล้ว”
“....”
(ทำไมยัยนี่ชอบนั่งเท้าคางมองคนอื่นกินข้าวนะ!?)
“.....................................”
มายนั่งเท้าคางมองหน้าผมตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวตัวผมที่โดนจ้องแบบนี้ก็เริ่มเขินเหมือนกันนะถึงจะเป็นพี่น้องกันก็เถอะถึงจะไม่แท้ก็ตามแต่ถ้าหากผมเกิดชอบยัยนี่ขึ้นมามันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
“อิ่มแล้วหรอฉันเก็บให้...วิวขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ”
“เธอนั้นแหละ...เดี๋ยวชั้นเก็บเองชั้นเป็นคนกินนะ”
“งั้นช่วยกัน!!”
“............................”
(เสร็จสักที)
พอเก็บจานเสร็จผมก็เดินขึ้นมาชั้น2และกำลังที่จะแยกเข้าห้องตัวเองผมก็ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยจะได้ยินจากพี่สาวคนนี้มาก่อนเป็นคำพูดที่เคยได้ยินจากปากมายเป็นครั้งแรก
“วิว..”
“?..”
“ฝันดีนะ”
ประโยคแค่บอกว่าฝันดีและรอยยิ้มที่ดูมีความสุขของมายที่มอบให้ผมก่อนที่มายจะเข้าห้องตัวเองแค่นี้มันก็ยิ่งทำให้ผมหัวใจเต้นแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนตอนนี้สมองผมมันคิดถึงความหมายอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่ก็คิดกลับมาที่สิ่งหนึ่งคือ“เราเป็นพี่น้องกันจะไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่านี้!?”)
.........................................................................................................................................................................
7.00 น.
ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาข้างล่างก็เจอพี่มิ้นที่กำลังยกข้าวต้มมาวางบนโต๊ะส่วนมายก็นั่งอยู่อีกฝั่ง
“วิวมาพอดีเลยพี่เพิ่งทำกับข้าวเสร็จพอดีเลยกินด้วยกันสิจ๊ะ”
(พี่มิ้นในชุดนักศึกษานี่สวยจังแฮะ)
“ขอบคุณครับ”
“....”
“หืม...พี่มิ้นทำกับข้าวอร่อยทุกวันลยนะครับ”
“นี่วิวฉันก็ทำทุกวันตอนเย็นไม่เห็นจะชมกันบ้างเลยนะ”
“ไม่เอาหรอกชมเธอมากเดี๋ยวมันจะไม่อร่อย”
ความจริงมายก็ทำอาหารอร่อยพอตัวเลยครับแต่จะอร่อยขนาดไหนไม่รู้เพราะมันก็ทำให้กินหมดไม่เหลือเหมือนกัน...แต่จะว่าไปผมติดใจอาหารเหลือจากตอนเย็นที่กินเมื่อวานก่อนมากกว่าแฮะอยากกินอีกสักครั้งตอนที่ทำเสร็จใหม่ๆจังแล้วก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำด้วย
“เกี่ยวอะไรกันฮ่ะ!!!”
“ฮะๆๆชั้นล้อเล่น...ของเธอก็อร่อย....แต่เวลาชั้นหิวๆนะ”
“นี่วิววว...”
คิดไปคิดมาแล้วเรื่องที่ผมคิดเมื่อคืนนี้คงจะเป็นการเข้าใจผิดของผมเองแน่ๆก็วันนี้ยัยนี่ก็ยังทำตัวปกติ
“ฮ่าๆๆๆ”
“ตีกันแต่เช้าเลยนะคู่นี้”
“นิดหน่อยเองครับ”
“อีตาบ้านี่หาเรื่องมายก่อนนะ!”
“จร้าๆๆ”
“วิวจะไปกับพี่ก็ได้นะจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับผมขับมอไซด์ไปเองดีแล้ว”
“งั้นพี่ออกไปก่อนนะ”
“ครับ”
“...”
(เอ้า..ยัยนี่ลงมาจากรถทำไม?)
พอทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว แล้วอยู่ๆมายก็ลงมา จะว่าลืมของอะไรหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
“...วิว”
“?...มีอะไร”
“เที่ยงนี้เราไปกินข้าวด้วยกันนะ”
(เฮ้ยย..ร้อยวันพันปีไม่เคยชวน)
“ทะ-ทำ-...เอ้าเดี๋ยวสิ”
(ทำไมชั้นต้องไปกินกับเธอด้วยเล่า)
พูดจบมายไม่รอคำตอบจากผมรีบกลับไปนั่งข้างพี่มิ้นเลย...หลังจากนั้นรถเก๋งคันงานของพี่สาวก็ขับออกไปส่วนผมก็ยืนดูรถพี่มิ้นจนขับไปลับตาเพราะยังคิดไม่ตกว่าทำไมยัยนั้นถึงชวนผมกินข้าวเที่ยงขนาดที่ตอนสมัยมัธยมเราอยู่ห้องเดียวกันแท้ๆยังไม่เคยจะชวนเลย...จากนั้นจึงจัดแจงปิดบ้านและขับตามออกไปเหมือนกัน
(รึว่าจะแกล้งอะไรเราอีก!!!?)
............................................................................................................................................................
22.30 น.
“...”
ผมกลับมาถึงบ้านแล้วก็เก็บรถเรียบร้อยพอเข้าบ้านมาก็เจอมายนั่งดูโทรทัศน์อยู่เลยทักยัยนี่ไป
“อ่าว..มายนี่เธอยังไม่นอนอีกหรอ”
“อืม..กำลังจะไปนอนพอดีแหละละครเพิ่งจบ”
“อ่อ...แล้วพี่มิ้นหล่ะ?”
“นอนไปนานแล้ว”
พี่มิ้นจะเป็นคนที่นอนไวสุดปกติ2ทุ่มครึ่ง3ทุ่มพี่มิ้นก็จะขึ้นไปนอนแล้วแต่มายมักติดนอนดึกซึ่งถ้าหากวันไหนผมกลับบ้านดึกๆประมาณซัก4-5ทุ่มเวลากลับมาก็จะเจอยัยนี่นั่งอยู่โซฟาน่าโทรทัศน์นี้ตลอด(จะติดละครอะไรขนาดนั้น)แต่ถ้าเกินเที่ยงคืนแล้วผมจะไม่กลับคือปกติจะนอนหอไอ้ซิก...แต่ก็มีอยู่คืนนึงที่ผมกลับมาตอนประมาณตี2ตอนนั้นกลับมาก็แปลกใจที่เห็นยัยนี่นอนหลับอยู่หน้าโทรทัศน์จนผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่จริงแล้วยัยนี่รอผมกลับบ้านหรือเปล่า!?...แต่ก็คงไม่ใช่หรอก
“...แล้วทำไมเพิ่งกลับ?”
“พอดีไปทะเลมาพอกลับมาก็นั่งเล่นอยู่หอไอ้ซิก”
(บอกไม่ได้เด็ดขาดว่าไปเที่ยวหมอนวดมาไม่สิเราไม่ได้ทำอะไรกับหมอนวดเลยก็กันไม่ใช่นี่)
“นั่งเล่น?...ได้กินเหล้ารึเปล่า”
“ก็นิดหน่อยหนะ”
(ถ้าบอกนั่งเล่นเฉยๆไม่รอดแน่)
“นี่วิวอายุแค่นี้กินเหล้ามากมันไม่ดีนะ...แล้วอีกอย่างกินเหล้าแล้วขับรถกลับมาแบบนี้มันอันตราย...เดี๋ยวก็ได้ตายก่อนวัยหรอก”
(บางทียัยนี่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่กับเค้าเหมือนกันแฮะ)
“มองอะไร!?”
คืนนี้มายใส่ชุดนอนยาวสีขาวลายรูปดาวที่ผ้าบางจนทำให้เห็นบราเซียร์สีดำลางๆ...จะว่าไปพี่มิ้นกับมายชอบยกทรงสีดำเหมือนกันรึเปล่านะ?
“ปะ..เปล่า”
“แล้วกินอะไรมายังหล่ะ?”
(จะว่าไปก็กินข้าวกับเบลไปตั้งแต่บ่าย2แล้วนี่หว่าแล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย....เริ่มหิวเหมือนกันแฮะ)
“ก็กินมาตั้งแต่บ่ายแล้ว”
“งั้นรอแปปนึงนะเดี๋ยวฉันไปอุ่นอะไรให้กิน”
“เดี๋ยวชั้นอุ่นเองก็ได้...เธอขึ้นไปนอนเถอะ”
“นั่งรออยู่ตรงนั้นแหละ”
“...................................................”
“...................................................”
ผมจะเดินเข้าไปอุ่นและหาอะไรกินเองแต่มายก็มาห้ามไว้และก็เดินหายเข้าไปในครัวสักพักก็เดินออกมากพร้อมกับข้าว3อย่างและข้าวสวยร้อนๆ
“ได้แล้ว”
“ขะ...ขอบคุณนะ”
“...”
“เอ่อ...เธอขึ้นไปนอนก่อนก็ได้นะดึกแล้ว”
“....”
(ทำไมยัยนี่ชอบนั่งเท้าคางมองคนอื่นกินข้าวนะ!?)
“.....................................”
มายนั่งเท้าคางมองหน้าผมตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวตัวผมที่โดนจ้องแบบนี้ก็เริ่มเขินเหมือนกันนะถึงจะเป็นพี่น้องกันก็เถอะถึงจะไม่แท้ก็ตามแต่ถ้าหากผมเกิดชอบยัยนี่ขึ้นมามันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
“อิ่มแล้วหรอฉันเก็บให้...วิวขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ”
“เธอนั้นแหละ...เดี๋ยวชั้นเก็บเองชั้นเป็นคนกินนะ”
“งั้นช่วยกัน!!”
“............................”
(เสร็จสักที)
พอเก็บจานเสร็จผมก็เดินขึ้นมาชั้น2และกำลังที่จะแยกเข้าห้องตัวเองผมก็ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยจะได้ยินจากพี่สาวคนนี้มาก่อนเป็นคำพูดที่เคยได้ยินจากปากมายเป็นครั้งแรก
“วิว..”
“?..”
“ฝันดีนะ”
ประโยคแค่บอกว่าฝันดีและรอยยิ้มที่ดูมีความสุขของมายที่มอบให้ผมก่อนที่มายจะเข้าห้องตัวเองแค่นี้มันก็ยิ่งทำให้ผมหัวใจเต้นแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนตอนนี้สมองผมมันคิดถึงความหมายอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่ก็คิดกลับมาที่สิ่งหนึ่งคือ“เราเป็นพี่น้องกันจะไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่านี้!?”)
.........................................................................................................................................................................
7.00 น.
ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาข้างล่างก็เจอพี่มิ้นที่กำลังยกข้าวต้มมาวางบนโต๊ะส่วนมายก็นั่งอยู่อีกฝั่ง
“วิวมาพอดีเลยพี่เพิ่งทำกับข้าวเสร็จพอดีเลยกินด้วยกันสิจ๊ะ”
(พี่มิ้นในชุดนักศึกษานี่สวยจังแฮะ)
“ขอบคุณครับ”
“....”
“หืม...พี่มิ้นทำกับข้าวอร่อยทุกวันลยนะครับ”
“นี่วิวฉันก็ทำทุกวันตอนเย็นไม่เห็นจะชมกันบ้างเลยนะ”
“ไม่เอาหรอกชมเธอมากเดี๋ยวมันจะไม่อร่อย”
ความจริงมายก็ทำอาหารอร่อยพอตัวเลยครับแต่จะอร่อยขนาดไหนไม่รู้เพราะมันก็ทำให้กินหมดไม่เหลือเหมือนกัน...แต่จะว่าไปผมติดใจอาหารเหลือจากตอนเย็นที่กินเมื่อวานก่อนมากกว่าแฮะอยากกินอีกสักครั้งตอนที่ทำเสร็จใหม่ๆจังแล้วก็อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำด้วย
“เกี่ยวอะไรกันฮ่ะ!!!”
“ฮะๆๆชั้นล้อเล่น...ของเธอก็อร่อย....แต่เวลาชั้นหิวๆนะ”
“นี่วิววว...”
คิดไปคิดมาแล้วเรื่องที่ผมคิดเมื่อคืนนี้คงจะเป็นการเข้าใจผิดของผมเองแน่ๆก็วันนี้ยัยนี่ก็ยังทำตัวปกติ
“ฮ่าๆๆๆ”
“ตีกันแต่เช้าเลยนะคู่นี้”
“นิดหน่อยเองครับ”
“อีตาบ้านี่หาเรื่องมายก่อนนะ!”
“จร้าๆๆ”
“วิวจะไปกับพี่ก็ได้นะจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับผมขับมอไซด์ไปเองดีแล้ว”
“งั้นพี่ออกไปก่อนนะ”
“ครับ”
“...”
(เอ้า..ยัยนี่ลงมาจากรถทำไม?)
พอทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว แล้วอยู่ๆมายก็ลงมา จะว่าลืมของอะไรหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
“...วิว”
“?...มีอะไร”
“เที่ยงนี้เราไปกินข้าวด้วยกันนะ”
(เฮ้ยย..ร้อยวันพันปีไม่เคยชวน)
“ทะ-ทำ-...เอ้าเดี๋ยวสิ”
(ทำไมชั้นต้องไปกินกับเธอด้วยเล่า)
พูดจบมายไม่รอคำตอบจากผมรีบกลับไปนั่งข้างพี่มิ้นเลย...หลังจากนั้นรถเก๋งคันงานของพี่สาวก็ขับออกไปส่วนผมก็ยืนดูรถพี่มิ้นจนขับไปลับตาเพราะยังคิดไม่ตกว่าทำไมยัยนั้นถึงชวนผมกินข้าวเที่ยงขนาดที่ตอนสมัยมัธยมเราอยู่ห้องเดียวกันแท้ๆยังไม่เคยจะชวนเลย...จากนั้นจึงจัดแจงปิดบ้านและขับตามออกไปเหมือนกัน
(รึว่าจะแกล้งอะไรเราอีก!!!?)
............................................................................................................................................................
7.40 น.
ผมมาถึงมหาลัยแล้วแต่เหมือนยังไม่มีใครมาจะว่าไปมันก็อาจจะยังเช้าอยู่...ตอนนี้ไอ้ซิกก็ยังไม่มาก็เลยคิดจะไปหามันที่ห้องสักหน่อยแต่คิดดูอีกทีแล้วนั่งรอมันอีกสักพักจะดีกว่า...ผมเลยนั่งอยู่ที่บริเวณโต๊ะหินอ่อนใต้ตึกคณะซึ่งคนที่คณะก็เริ่มที่จะมากันบ้างแล้วแต่ผมก็ไม่ค่อยสนิทสนมกับใครเลยไม่ได้ไปคุยกับพวกเขา
“.................................”
“...มานั่งอยู่ที่นี่คนเดียวเหงาแย่เลยนะไม่เข้าไปคุยกับเพื่อนหน่อยหรอจ๊ะ”
“...?..อ่อ..เอ่อ..ยังดีกว่าครับอาจารย์”
อาจารย์สาวสวยเอ่ยทักผมที่กำลังนั่งเท้าคางมองคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยเปื่อยซึ่งน้ำเสียงของเธอดังมาจากทางด้านหลังผม...พอผมได้ยินเลยพูดกับเธอกลับไปแบบนั้น...จะว่าไปเธอยังจำผมได้ด้วยแฮะเราเพิ่งเคยเจอกันวันศุกร์เองและคนก็เยอะด้วย
“หรอจ๊ะ..แต่ระวังจะหาเพื่อนไม่ได้น๊า...งั้นมาแน่ะนำตัวกันหน่อยดีกว่าจ๊ะ...เราเพิ่งเคยเจอกันเมื่อตอนวันศุกร์เอง...อาจารย์ยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย”
พูดจบอาจารย์สาวก็เดินผ่านผมไปนั่งที่อีกฝั่งนึงของโต๊ะที่ผมนั่งอยู่พลางหยิบน้ำในมือขึ้นมาดื่ม
(...ก็คิดว่าจะรู้จักเรา...แต่เราก็ไม่ได้คุยกับอาจารย์เลยนิหว่าจะมีก็แต่ไอ้ซิกที่ริอาจจะจีบอาจารย์แต่ให้เราตามหลังไปคุมเชิงให้)
“ผม...วรรณศักดิ์ครับ...อาจารย์
กัลยารีย์”
“เรียกอาจารย์กิ่งก็ได้จ๊ะ...เรียกชื่อจริงมันดูห่างๆกันน่ะจ๊ะ...แล้ววรรณศักดิ์ชื่อเล่นว่าอะไรหรอจ๊ะ?”
“วิวครับ...”
อาจารย์กัลยารีย์เป็นอาจารย์ช่วยฝึกสอนที่จะมาสอนที่คณะผมในเทอมนี้
เห็นตอนที่อาจารย์แนะนำตัวเธอบอกว่าปีนี้อายุ29ซึ่งนั่นทำให้นักศึกษาหนุ่มๆในคณะต่างบอกไม่เชื่อกันเป็นแถว...โดยเฉพาะไอ้ซิกเพื่อนผมนี่ออกหน้าออกตาเลยทั้งๆที่ตอนนั้นมันยังบอกว่าจะจีบสาวสวยคนที่ได้เจอที่คณะของมายอยู่เลยแต่พอกลับมาเจออาจารย์คนนี้ก็ออกลายเหมือนเคย...แต่ถ้าจะพูดความจริงแล้วพวกเพื่อนๆในคณะหรือไอ้ซิกจะไม่เชื่อว่าอาจารย์เค้าอายุ29แล้วก็ไม่น่าแปลกเพราะรูปร่างหน้าตาหรือแม้แต่ผิวพรรณของอาจารย์ไม่เหมือนผู้หญิงที่อายุใกล้ขึ้นเลข3เลย...และที่สำคัญหน้าตาอาจารย์คนนี้เหมือน...
“?”
“...”
“?...ที่หน้าอาจารย์มีอะไรติดอยู่หรือเปล่าจ๊ะ?”
“ปะ..เปล่า...เอ่อขอโทษครับ”
(ทำไมหน้าอาจารย์กิ่งถึงได้หน้าตาเหมือน“กัน”ขนาดนี้!?)
“...”
อาจารย์กิ่ง เป็นคนที่ผอมขาว
ไว้ผมยาวพอประมาณเลยบ่าลงมานิดหน่อย จะว่าไปก็สวยเลยก็ได้
แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนเธอก็คล้ายคลึงกับหญิงสาวคู่นอนของผมเมื่อคืน...ถ้าหากว่าเธอทั้งคู่เกิดเป็นพี่น้องไม่สิฝาแฝดกันผมก็จะไม่แปลกใจเลย...จะมีที่ต่างกันก็คงเป็นที่สีผม,ความยาว,ตา,ความสูงนี่แหละ...กันย้อมผมสีน้ำตาลเข้มและยาวกว่าส่วนตาก็เป็นตา2ชั้นแต่อาจารย์ชั้นเดียวแล้วก็กันจะตัวเล็กกว่านี่หน่อยก็คงจะประมาณ165-166ส่วนอาจารย์หน้าจะ170...จะว่าไปถ้านึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วคิดว่าผมทำอะไรกับ...
(บ้าเอ้ย...คิดอะไรอยู่วะไอ้วิว)
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะวิว-”
“อาจารย์คะ...อาจารย์วิยะดาตามหาอยู่น่ะค่ะ”
“หรอจ๊ะ..ขอบใจมากนะเฟิร์น”
“ค่ะ”
“...”
“วิว...อาจารย์ไปก่อนนะจ๊ะ”
“คะ..ครับ”
(คิดเรื่องแบบนั้นตอนที่ทำกับกันจนไม่กล้ามองหน้าอาจารย์เลยวุ้ย!!..โธ่...)
หลังจากอาจารย์ไปแล้วผมก็นั่งเล่นต่ออีกสักพักจนไอ้ซิกเดินมา...จะว่าไปดูแล้ววันนี้มันจะหน้าตาซีดเซียวนี่ก็อาจเป็นเพราะเมื่อคืนมันเล่นจ้ำจี้กับน้องส้มหมอนวดคู่ขาที่ติดใจจนขนาดพากลับเข้าไปต่อที่ห้องก็เป็นได้...คิดแล้วก็หน้าแซวมันเหลือเกินตอนนี้คนกำลังเยอะเลยด้วย
“...”
“อ้าวววว!!!!...ไอ้ซิก..เมื่อคืนเล่นจ้ำจี้กับหมอนวดจนหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยหรอว๊าา!!!!”
“!!!!!...ไอ้บ้าวิวมึงจะตะโกนเสียงดังทำไมวะ”
(ฮ่าๆๆๆสะใจ)
“.......”
เมื่อกี้พอผมตะโกนใส่ไอ้ซิกไปแบบนั้นทำให้นักศึกษาที่เดินไปมาหันมามองมันเป็นตาเดียวจนไอ้ซิกนี่หน้าซีดลงไปอีก
เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
“ไงหล่ะพี่ซิก...น้องส้มเล่นหนักเลยสิ”
“...ผู้หญิงอะไรจะเซ็กส์จัดขนาดนั้น...กูจะพักสักหน่อยก็ไม่ได้”
“ฮ่ะๆๆ..เห็นบอกชอบไม่ใช่เหรอแบบนี้”
“มันก็เกินไปโว้ยย!!”
“เหรออออ”
“...แล้วเพื่อนผู้จัดการร้านน้องส้ม-”
“ไอ้วิว..ไอ้ซิก..อาจารย์เรียกรวมแล้ว”
(คนนี้ใคร?)
เหมือนว่าเมื่อกี้ไอ้ซิกมันจะถามถึงกันแน่ๆแต่ก็มีเพื่อน(หรือเปล่าไม่รู้)ในคณะเดินเข้ามาตามพวกผมเพราะดูเหมือนว่าจะเริ่มทำกิจกรรมกันแล้ว
“อือ”
“เออๆไอ้เคเดี๋ยวกูตามไป”
“...”
...................................................................................................................................................................................................................................
กิจกรรมที่คณะผมจัดเป็นกิจกรรมสันทนาการทั่วไปและจัดมาจนถึงเวลา11โมงอาจารย์จึงปล่อยพัก...ระหว่างร่วมกิจกรรมไอ้ซิกก็ได้แต่คอยที่จะหยอดคำหวานต่างๆนาๆให้อาจารย์กิ่งแต่อาจารย์กิ่งก็จะไม่ค่อยสนใจมันสักเท่าไรแต่ดูเหมือนไอ้ซิกก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
(ไอ้บ้านี่เมื่อเช้ายังหน้าซีดตาเหลืองเป็นไก่ต้มอยู่เลยแท้ๆพอสายหน่อยก็เป็นคนละคนเลยนะมึง)
“............................................”
พออาจารย์ปล่อยพัก...ผมก็เดินออกมานั่งตรงโต๊ะหินอ่อนใต้ตึกที่เดียวกับเมื่อเช้าคนเดียวเพราะไอ้ซิกก็ดูเหมือนจะเดินตามไปส่งอาจารย์ที่ไหนไม่รู้...แต่เหมือนกับมันจะไปส่งได้ไม่ไกลสุดท้ายก็เดินมาหาผม
“...เฮ้ย..วิว..ว่างๆแบบนี้เราไปไหนกันดีวะ”
“จะรู้เรอะ.เพิ่ง11โมงเอง...แล้วอาจารย์นัดบ่าย2ใช่ป่ะ”
“เออ...งั้นกลับไปนอนเล่นหอกูก่อนไหมหล่ะ”
“อืมมมมม...ก็น่าจะดี...แล้วเมื่อกี้นี้มึงเดินตามอาจารย์เค้าไปไหนมา?”
“จะไปส่งไงแล้วก็ว่าจะไปกินข้าวกับอาจารย์กิ่งสุดสวยของกูด้วย”
“เหรอ!..แล้วทำไมกลับมาเร็ว...คงจะโดนอาจารย์เค้าไล่มาหล่ะสิ”
“555...”
“ไม่ต้องมาทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนเลยมึง”
“อาจารย์กิ่งก็แค่ยังไม่หิวโว้ย!”
“แน่เรอะ...กูคิดว่าเค้าคงไม่อยากไปกินกับมึงมากกว่ามั้ง”
“ไม่ต้องพูดเลยมึง”
“งั้นไปหอมึงเถอะ”
พอผมพูดจบก็มีเสียงใสๆของผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผมมาจากด้านหลัง
“วิวคะ”
เป็นเบลที่เดินมากับเพื่อนสาวอีกคนหนึ่งพอผมหันไปเบลก็เดินเข้ามาหาผม...จะว่าไปเมื่อตอนที่ทำกิจกรรมอยู่ผมไม่กล้าที่จะมองหน้าเธอสักเท่าไรเพราะมันจะทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“ครับเบล...มีอะไรหรอครับ”
ดูท่าแล้วสาวเจ้าพอเห็นหน้าผมหน้าเธอก็แดงออกมาจนตัดกับสีผิวที่ขาวของเธอเช่นกัน...และตอนนี้ทั้งผมและเธอแทบจะไม่กล้าที่จะมองหน้ากันตรงๆเลย
“เบลฝนไปรอที่รถนะ”
“จ่ะ...เดี๋ยวเบลตามไปนะ”
“วิวๆๆ...เดี๋ยวกูไปรอที่รถก่อนนะ”
(ท่าทางมึงนี่จะรนๆนะ..ฝนก็เพื่อนนะโว้ยกูรู้นะว่ามึงคิดไม่ซื่อกับฝน)
“อ่าๆ”
(ไอ้บ้านี่จีบไม่เลือกเลยนะมึง!)
“ฝนคร๊าป...ไปที่เดียวกับซิกเลย!!”
(กูว่าแล้ว!!...เอิ่มม..ฝนนี่เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่จะซ่อนรูปหรือเปล่านะ??...แล้วตรงนั้น-ไอ้ห่าวิวมึงคิดอะไรอยู่วะ!!!!)
แนะนำนิดนะครับฝนเธอเป็นคนที่ขาวไม่มากนักผิวออกไปทางสีน้ำผึ้งมากกว่าแล้วก็ถึงจะออกสูงแต่เธอก็ผอมมาก...แถมหน้าอกก็ดูท่าจะเล็กแฮะ...เดาๆแล้วก็คงจะประมาณ31-32เห็นจะได้
“...”
“ตอนเที่ยงวิวว่างไหมคะ”
“ก็ว่างอยู่นะครับทำไมหรอ?”
“คือ...”
“?”
“วิวค่ะ...ตอนเที่ยงเราไปทานข้าวด้วยกันนะค่ะ”
(ข้าว...ข้าว..ข้าว..ฮะ..เฮ้ยยยย!!!!...ตอนเที่ยงเราต้องไปกินกับยัยนั่นนี้หว่าาาา!!!)
“เอ่อออ”
“ไม่ว่างหรอคะวิว”
(เอาไงดีวะ-รถไฟชนกันแน่...แต่เราจะกลัวทำไมก็มายเป็นพี่เรานี่หว่า...ถ้าไปกินกัน3คน--ไม่สิไม่ได้!!)
“ว่างๆ...ว่างนะครับ”
คิดดูดีๆแล้วถ้าผมไปกินข้าวกับเบลตอนเที่ยงแล้วเกิดไปเจอมายขึ้นมานี้ท่าทางจะยุ่งแน่...แต่จะเอายังไงดีหล่ะถ้าปฏิเสธเบลก็ไม่ดีเหมือนกัน
“งั้นเดี๋ยวตอนเที่ยงเราเจอกันนะค่ะ”
(ตอนเที่ยงๆ...เออจริงด้วยนี่ก็เพิ่ง11โมงเอง..แล้วถ้าไปกับเบลก่อน...แค่นี้ก็คงไม่มีปัญหา)
“เอ่อ...เบลครับงั้นเราไปกินข้าวเที่ยงกันตอนนี้เลยดีไหมครับ”
“ตอนนี้เลยหรอคะ...”
ดูเหมือนเบลจะลังเลนิดๆเธอเอานิ้วชี้ข้างขวามาแตะริมฝีปากที่เรียวบางแล้วทำสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“นะครับ”
“ก็ได้ค่ะ...งั้นเดี๋ยวเบลไปบอกฝนก่อนนะค่ะ”
(รอดตัวไปวุ้ย)
“งั้นเดี๋ยวไปด้วยกันเลยนะครับผมจะไปหาซิกมันด้วยเลย”
“ค่ะ”
ผมลุกออกจากโต๊ะหินอ่อนและเดินไปกับเบลจนมาถึงที่จอดรถซึ่งมีไอ้ซิกและฝนยืนคุยกันอยู่
“ฝนจ๊ะ...”
“อ่าวเบลคุยกันเรียบร้อยแล้วหรอ”
“ใช่จ่ะ...เดี๋ยวเบลจะไปกินข้าวกับวิวตอนนี้เลย...ฝนจะไปด้วยไหม”
“ฝนมีธุระน่ะ...ต้องเอาของไปให้อาจารย์”
“แล้วซิกหล่ะค่ะ”
“ผมกลับไปกินที่หอดีกว่าครับ”
(สุดท้ายก็ไปกัน2คนสินะ)
“.............................................................”
“งั้นเราแยกกันตรงนั้นเลยนะ...วิวกินข้าวเสร็จไปหอกูด้วยนะโว้ย”
“เออๆ”
“ไปก่อนนะเบล...มีความสุขมากๆหล่ะ”
“ฝนก็...พูดอะไรก็ไม่รู้”
(เบลหน้าแดงแฮะ)
ทั้งไอ้ซิกและฝนต่างขับรถออกไปคนละทางและตอนนี้ก็เหลือเสียงแค่ผมกับเบลแค่2คน
“ไปร้านไหนกันดีครับ...หรือจะกินในมหาลัยเลย”
“ไปร้านที่เราเจอกันครั้งก่อนดีไหมค่ะ...ป้าศรีทำกับข้าวอร่อยดี”
“งั้นก็ได้ครับ”
พูดจบเบลก็เหมือนที่จะเอารถตัวเองไปผมจึงห้ามไว้และบอกไปคันเดียวกันดีกว่า...ตอนแรกเบลก็ทำสีหน้าอายนิดๆแต่สุดท้ายก็ขึ้นมาซ้อนรถผมจนได้เรา2คนไปนั่งกินข้าวด้วยกันที่ร้านป้าศรีระหว่างที่กินเราสองคนก็พูดคุยกันปกติและผมก็ไม่ลืมที่จะถามถึงอาการของกิ๊กเพราะว่าเมื่อวานนี้เธอไม่ค่อยสบายแต่ดูเหมือนว่าอาการของกิ๊กจะดีขึ้นมากแต่วันนี้กิ๊กก็ยังมามหาลัยไม่ไหว...จะว่าไปถ้าไปหากิ๊กหน่อยก็น่าจะดี...พอกินเสร็จหลังจากนั้นผมก็พาเบลมาส่งที่ตึกคณะเพราะเหมือนว่าเบลจะโทรนัดกับฝนไว้ที่นี่
11.50 น.
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะวิว”
“ไม่เป็นไรครับ...งั้นผมไปก่อนนะ”
“จ่ะ...ไว้เจอกันบ่าย2นะค่ะ”
“ครับ”
........................................................................................
พอส่งเบลเสร็จผมก็ขับรถต่อมาที่ตึกคณะมายตอนแรกถือว่าโชคดีที่เผื่อเวลาไว้เพราะว่าตอนนั้นก็คิด2จิต2ใจเหมือนกันว่าที่มายพูดเมื่อเช้าจะจริงหรือเปล่าแต่สุดท้ายพอเบลเดินขึ้นตึกไปมายก็โทรตามจนได้
(“ฮัลโหล...”
“วิวอยู่ไหน...จะเที่ยงแล้วนะมารับฉันไปกินข้าวด้วย”
“ทำไมชั้นต้องไปกินกับเธอด้วยเล่า”
(เมื้อเช้ายังพูดไม่จบตอนนี้ได้พูดสักที)
ความจริงผมก็ไม่คิดอะไรมากหรอกถ้าจะให้ไปกินด้วยกันเพียงแต่ถามมายไปเฉยๆแบบนั้นเองและยัยนั้นก็คงจะเอาเหตุผลพี่สาวน้องชายมาอ้างอีกเหมือนเคย
“พี่สาวจะกินข้าวเที่ยงกับน้องชายมันแปลกตรงไหน”
(ว่าแล้วเชียว)
“อือๆๆเดี๋ยวชั้นไปรับ”
“...”)
พอถึงผมก็จอดรถไว้หน้าตึกและเดินขึ้นไปได้หน่อยนึงก็มีเบอร์แปลกโทรมาหาผม
“หือ...เบอร์ใครหล่ะเนี้ย090-77xxxxx...สวัสดีครับ”
“วิวค๊ะ...จำได้ไหมว่าใคร”
“กิ๊กใช่ไหมครับ...ตอนนี้อาการป่วยเป็นยังไงบ้างครับ”
(แล้วได้เบอร์โทรศัพท์ของเรามาจากใครอีกหล่ะเนี้ย)
ผมจำเสียงกิ๊กได้และคิดว่าเป็นเสียงกิ๊กแน่นอนแต่ฟังๆดูแล้ววันนี้เสียงกิ๊กดูแหบๆแห้งๆแสดงว่าท่าทางจะป่วยหนักพอดูเลย
“ดีขึ้นบ้างแล้วค๊ะ...ขอบคุณที่เป็นห่วงนะค๊ะ”
“พักผ่อนเยอะๆนะครับแล้วกิ๊กโทรมามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
“แหม..วิวล่ะก็...กิ๊กจะโทรหาวิวโดยที่ไม่มีธุระไม่ได้หรอค๊ะ”
กิ๊กพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะงอนนิดๆ
“อึ้ย..ผมขอโทษครับ”
“คิๆๆ..กิ๊กล้อเล่นน่ะค๊ะ”
“แฮะๆๆ”
“วิวค๊ะ...เที่ยงแล้วนะออกมากินเข้าเที่ยงด้วยกันเถอะค๊ะ”
(เห...ชวนไปกินข้าวเที่ยงอีกคนแล้วหรอ)
“เอ่อ...คือว่าผมมีธุระกับพี่สาวนิดหน่อยน่ะครับ...ขอโทษด้วยนะครับ”
“...หรอค๊ะ”
ตอนนี้น้ำเสียงกิ๊กดูจะผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
“ขอโทษจริงๆนะครับ”
“งั้นไม่เป็นไรค่ะ...แต่”
“?”
“พอกิ๊กหายดีแล้ววิวต้องมาชดเชยนะค๊ะ”
“ชดเชย?...ได้ครับเดี๋ยวผมจะพากิ๊กไปเลี้ยงเอง”
“คิคิคิ...แน่นะค๊ะ...แต่กิ๊กไม่ยอมให้วิวเลี้ยงแค่ข้าวอย่างเดียวแน่ค๊า”
“เห...”
“งั้นกิ๊กกินข้าวกินยานอนก่อนนะค๊ะ...กิ๊กจะรอวันที่เรามีความสุขด้วยกันอีกครั้งนะค๊ะ”
“อึก”
ผมกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเพราะรู้ความในว่ากิ๊กหมายความว่าอะไร
“แค่นี้้นะค๊ะ...ที่รัก”
”คะ..ครับ”
พอกิ๊กวางสายไปมายก็มาพอดี
“คุยโทรศัพท์อยู่กับใครเหรอวิว”
“กับเพื่อน...เธอบอกให้ชั้นรีบมาแต่เธอนี่ช้าจริงๆเลยนะ”
“ก็อาจารย์ใช้หล่ะสิ...อย่าทำเป็นบ่นไปเลยน่า”
“แล้วจะไปกินร้านไหน?”
“กินที่โรงอาหารนี่แหละวิว...แดดมันร้อนฉันไม่อยากซ้อนมอไซด์ตากแดด...เดี๋ยวผิวเสียหมด”
“ตากแดดแค่ไม่กี่นาทีมันคงไม่ทำให้เธอขี้เหร่ลงไปหรอกน่า”
“หรือว่าน้องชายชอบคนไม่สวยหล่ะฮะ”
“จะเป็นแบบนั้นไปได้ไง...ผู้ชายที่ไหนจะชอบคนขี้เหร่หล่ะเธอ”
“เห็นไหม!...แล้วถ้าฉันขี้เหร่ลงไปก็ไม่มีใครชอบสิ”
“นี่ชั้นก็บอกไปแล้วไงว่าตากแดดแค่นี้มันคงไม่ทำให้เธอเปลี่ยนไปขนาดนั้นหรอก...ก็เธอ-...”
“อะไร...พูดมาให้จบนะวิว”
“สะ...สวยมากอยู่แล้วไง”
(ไม่ได้ชมนะแค่พูดตามความจริง)
พอผมพูดไปแบบนั้นมายก็เดินไปข้างหน้าผมอย่างเร็วนี่ไม่รู้มายจะเขินหรือเปล่าเพราะผมมองไม่เห็นหน้า
“อะไร...จะชมฉันแค่นี้ต้องอ้ำๆอึ้งๆด้วยรึไง.....”
มายเดินนำผมลงไปข้างล่างบันไดจนผมได้ยินไม่ค่อยชัดว่ายัยนี้พูดอะไรบ้างแต่รู้สึกว่าจะได้ยินแค่ชมฉันแค่นี้ต้องอ้ำๆอึ้งๆด้วยหรือไงแล้วเหมือนจะพูดอะไรต่อไม่รู้เพราะมายหันกลับมาครึ่งหน้าและพูดเสียงเบามากทำให้ผมเห็นเพียงแค่ริมฝีปากที่ขยับและเหมือนหน้ายัยนี่จะแดงออกมานิดๆอันนี้แน่หรือเปล่าไม่แน่ใจ...เพราะผมเห็นแค่ครึ่งหน้าเองแล้วลมมันก็พัดมาจนผมปิดหน้าอีกทำให้อ่านปากไม่ออกเลย
“?...ต่อจากอ้ำอึ้งเธอพูดอะไรอีกหรือเปล่า?”
ผมเดินตามมายลงมาข้างล่างและถามยัยนั่นไปแบบนั้นพอผมเข้าไปใกล้ยัยนี่ก็เบนหน้าหนีไปทางอื่น
“เปล่านี่...ไปกินข้าวกันได้แล้ว”
(พูดอยู่ชัดๆ)
“อือๆๆ”
.................................................................
ผมพามายมาถึงที่โรงอาหารของมหาลัยและก็เป็นแบบที่คิดเพราะคนเยอะมากแต่มันก็สะดวกเรื่องระยะทางนี่แหละ
“คนเยอะจัง”
พอจอดรถเสร็จมายก็บ่นออกมาเลย
“เธอชวนชั้นมาที่นี่เองนะ”
“ก็ไม่รู้นี่ว่าคนจะเยอะขนาดนี้...พี่สาวผิดงั้นเรอะ”
“ไม่ผิดเลยครับ...ก็คงจะมีแต่คนที่คิดแบบเธอว่าถ้าตากแดดแค่ไม่กี่นาทีจะทำให้ความสวยถดถอยจนทำให้ต้องมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ไง..หึๆ”
“ประชดประชันฉันจังเลยนะวิว”
“เปล่าสักหน่อย”
ผมเดินคุยกับมายมาจนถึงข้างในและกำลังมองหาที่นั่งเพราะดูแล้วเต็มแทบทุกโต๊ะแต่ก็ยังดีที่มายตาไวเลยเห็นที่ว่างพอดี
“ตรงนั้นว่างพอดี...ฉันเอาอะไรก็ได้...ไปนะ”
“ดะ...เดี๋ยว..เดี๋ยวเธอจะไปไหน”
“จะไปจองที่ไว้ไง”
“จะไปก็ไม่ว่าหรอกแล้วตังหล่ะ”
“นี่วิวแบบนี้ใช้ไม่ได้นะ...มากับสุภาพสตรีแล้วจะปล่อยให้สุภาพสตรีออกเงินซื้อข้าวเองหรอ”
“...อือๆๆ...ก็ได้ๆ”
พูดจบมายก็เดินไปนั่งที่โต๊ะว่างด้านในส่วนผมก็มาต่อแถวซื้อข้าว
(แถวยาวจริงวุ้ย)
“.......................................................”
“...เอาข้าวมันไก่....แล้วก็แกงเขียวหวานครับ....แกงเขียวหวานไม่ต้องเยอะนะครับ”
ผมเลือกข้าวมันไก่ให้มายเพราะเป็นของโปรดของยัยนั่นแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะถูกใจหรือเปล่าส่วนผมเลือกแกงเขียวหวานแต่ก็เอาไม่เยอะเพราะเริ่มอิ่มๆมาตั้งแต่ไปเกินกับเบลแล้ว
หลังจากนั้นพอได้ของกินแล้วผมจึงจัดแจงใส่ถาดและกำลังจะยกไปให้มายแต่ก็ดูเหมือนจะมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่โต๊ะเดียวกับมายแต่คนละฝั้ง
(ยัยนี่เสน่ห์ยังแรงไม่เปลี่ยนเลยนะ)
ผมยังไม่อยากที่จะเข้าไปขัดจังหวะตอนนี้เลยยืนถือถาดดูเหตุการณ์อยู่ด้านหลังมายแต่ก็ไม่ห้างมากทำให้พอได้ยินได้บ้างว่าคุยอะไรกันแต่ก็ได้ยินไม่มากเพราะที่นี่เสียงดังมากด้วย
“เราแลกเบอร์กันก่อนและรองคุยๆกันดูก่อนไม่ได้หรอครับ”
“............................................”
(ยัยนั้นพูดอะไรไม่ได้ยินเลย)
“ทำไมหล่ะครับ”
“.............................................”
“เขาเป็นใครหรอครับเรียนที่นี่หรือเปล่า”
“.............................................”
“พี่เข้าใจแล้วครับ...งั้นพี่ขอโทษด้วยนะครับ”
“.............................................”
มายพูดอะไรไม่รู้แต่ดูเหมือนคนนั้นจะกินแห้วไปตามระเบียบ...พอคนเมื่อกี้เดินไปนั่งที่โต๊ะอีกฝั่งกับเพื่อนหรือเปล่าไม่รู้ผมจึงเดินเข้าไปหามายและนั่งลงที่เดียวกับที่คนเมื่อกี้นั่ง
“...”
“มาแล้วหรอ...ช้าจัง”
“ก็คนเยอะนี่”
“ว๊าววว...ของโปรด..ขอบคุณนะวิว”
“...มาย...แล้วเมื่อกี้เธอคุยอะไรกับผู้ชายโต๊ะฝั่งโน้นเหรอ...คนรู้จักเรอะ?”
เรา2คนนั่งกินข้าวพลางคุยกันไปผมจึงถามมายไปด้วยถึงเรื่องผู้ชายคนเมื่อกี้
“ไม่ใช่หรอก...คนนั้นเค้ามาขอเบอร์”
“เหอะๆๆ...เสน่ห์แรงจังแฮะเธอ”
“ยังเทียบกับ-”
“เทียบกับอะไร”
“เทียบกับพี่พลอยไม่ได้หรอก”
“พี่พลอย?...ใครเหรอ?”
(ชื่อคุ้นมากเลย...แต่นึกไม่ออกว่าใคร)
“วิวจำคนที่เจอเมื่อวันศุกร์ได้ไหม...คนที่อยู่กับฉันตอนวิวไปหาน่ะ”
คนที่ดูสวยอยู่กับมายที่ผมเจอมี2คนซึ่งหน้าจะเป็นพี่น้องกันแต่หญิงสาวคนน้องหน้าจะอ่อนกว่าผมและมายถ้างั้นก็หมายถึงคนพี่สินะ...ชื่อพลอยหรอเนี้ย
“...อืมจำได้สิ...คงจะเป็นคนที่สวยสุดๆคนนั้นใช่ไหม...555..แต่เค้าก็สวยเกินมนุษย์ไปแล้วไม่น่าแปลกที่เธอจะเทียบไม่ติด”
“นี่วิว!!!”
“ชั้นแค่ล้อเล่นหน่ะคนเราก็สวยไปคนละแบบสำคัญที่นิสัยมากกว่า...แล้วผู้หญิงคนนั้นเค้าเป็นอะไรกับเธอเรอะ”
“เป็นญาติ...รึเปล่าไม่รู้นะ..เป็นหลานของพ่อหน่ะ”
“พ่อเธอ?”
“พี่วิวนั้นแหละ”
“เอ้ย!!-งั้นก็เป็นญาติชั้นหล่ะสิ”
“ใช่...แล้ววิวยังจำไม่ได้อีกเหรอว่ามีลูกพี่ลูกน้องกี่คน”
“...ไม่อะชั้นนึกไม่ออกเลย...เธอช่วย-”
“ไม่ได้หรอกเรื่องสำคัญแบบนี้วิวต้องนึกให้ออกเอง”
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ตัวเองจำเรื่องในอดีตไม่ได้...แล้วผมก็เคยถามจากพ่อหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยที่จะได้คำตอบเพราะพ่อจะบ่ายเบี่ยงตลอด
“บอกหน่อยไม่ได้เรอะ”
“ยังบอกตอนนี้ไม่ได้...ถ้าวิวนึกออกเองมันจะมีความหมายมากกว่า”
(อะไรกันแค่บอกว่าเรามีพี่น้องกี่คนก็ไม่ได้รึ)
“...”
“เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะ”
(คิดแล้วก็น่าจะดีเหมือนกันบางทีถ้าค่อยๆคิดไปความจำสมัยเด็กอาจจะกลับมาทั้งหมดก็ได้ถึงจะต้องใช้เวลานานสักขนาดไหนก็ตาม
ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต สักวันหนึ่งต้องจำให้ได้)
“...อ่าาา...แล้วเมื่อกี้เธอ...ได้ให้เบอร์เค้าไปไหมหล่ะ”
“เปล่านี่”
“ทำไมหล่ะ...เธอไม่คิดจะหาฟงหาแฟนกับเขาบ้างหรือไง...ระวังจะขึ้นคานนะมายศิณีย์
555+”
“นี่วิวอย่าดูถูกฉันนะ!!...ฉันก็มีคนที่ชอบหรอกน่า!!!”
“เหๆๆ...ยัยตัวแสบแสนสวยยอมเปิดปากว่ามีคนที่ชอบแล้ววววว...”
“ฉันก็เป็นผู้หญิงที่มีหัวจิตหัวใจนะ!!!”
“โฮ้ๆๆ...อย่าเพิ่งซีเรียสสิ...งั้นช่วงสัมภาษณ์ครับ”
ผมคิดอะไรดีๆออก...คืออยากรู้ว่ายัยนี่ชอบใครกันแน่เพราะเท่าที่เห็นทุกครั้งยัยนี่จะบอกปัดหมด
“อะไร?”
“อ๊ะแฮ่ม...คนที่คุณมายศิณีย์ชอบ...ตอนนี้เค้า
อายุเท่าไหร่,ทำงานอะไร,แล้วอยู่ที่ไหน
ครับ”
“....เล่นอะไรเนี้ยวิว...เอ่อ...อายุ18...เป็นนักศึกษาอยู่จังหวัดนี้”
“เหๆๆ...เด็กหนุ่มนักศึกษาซะด้วย...เอ๋ๆๆ...แล้วมหาลัยไหนหล่ะเนี้ยยย”
“มหาลัยเดียวกับฉันนี่แหละ”
(มหาลัยนี้??)
“โอ้...คนในมหาลัยเดียวกันด้วย...ใครเน้ออ...งั้นถามต่อเลยนะครับ-”
“เค้าคนนั้นนิสัยเป็นยังไงครับ”
“...อืม...ก็เป็นคนที่ใจดีนะ...ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น...ดูเป็นคนที่พึ่งพาได้...อ่อนโยน...รวมๆแล้วก็นิสัยดีนี่แหละเพราะฉันมีความสุขตอนที่ได้อยู่ใกล้เขา...แต่ก็มีข้อเสียหลายอย่างเหมือนกัน”
(ใจดี...ยอมทำตามที่คนอื่นขอ...เป็นคนที่พึ่งพาได้...นิสัยดี...อ่อนโยน...ใครฟ๊ะ?????)
“ข้อเสีย?”
“ชอบอยู่คนเดียว...ดูเศร้าๆเป็นประจำตอนอยู่ตามลำพัง...ปฏิเสธใครไม่เป็น..อ่อนโยนเกินไป”
“ยังไงอ่ะ?”
“ก็เพราะเขาอ่อนโยนกับคนรอบข้างจนเกินไปและปฏิเสธใครไม่เป็นนี่แหละฉันเลยคิดว่ามันจะก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตได้”
“โฮ้ๆๆ...ชักเริ่มอยากรู้จักกับผู้ชายคนนั้นซะแล้วสิ...”
“เขาอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
“งั้นข้อ--”
“นี่วิวเล่นอะไรพอได้แล้ว!!”
“โธ่...ชั้นก็อยากรู้บ้างนี่...เธอก็เป็นพี่สาวชั้นนะ...น้องชายจะอยากรู้ว่าพี่สาวแอบปิ้งใครมันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เรอะ...งั้นขอคำถามสุดท้าย...คนนั้นชื่ออะไรเรอะ”
(555+ สะใจที่ได้แกล้งยัยนี่จริงวุ้ย)
“ไม่บอก!!!”
“---โห.....”
ไม่ว่าผมจะถามสักเท่าไรมายก็ไม่ยอมบอกว่าคนนั้นชื่ออะไร
“...ถ้าถึงเวลาฉันจะบอกเอง”
(คนนั้นคือใครก็ชั่งเถอะ“ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต”สักวันก็คงจะรู้เองแหละมั้ง?)
“อย่าลืมด้วยหล่ะ”
“อืมๆๆ”
“.....”
บางทีได้มานั่งกินข้าวกับยัยนี่และคุยกันแบบนี้ก็รู้สึกมีความสุขดีแฮะ...ผมคิดแบบนั้น
เรา2คนนั่งกินข้าวกันจนหมด(แบบอิ่มจนแทบไม่อยากที่จะขยับเขยื้อนตัว)แล้วเหลือบไปมองนาฬิกานี่ก็เกือบจะเที่ยงสี่สิบแล้ว...ตัวผมเองก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกถ้าจะนั่งเล่นอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพักถึงจะเสียงดังเกินไปก็เถอะ...แต่ดูเหมือนมายจะต้องไปทำกิจกรรมต่อ
“เรากลับกันเถอะเดี๋ยวฉันต้องไปทำกิจกรรมต่อ”
“อืม”
“....................................................”
“....................................................”
“ขอบคุณนะวิวที่เลี้ยงข้าวฉัน”
“ไม่เป็นไรหรอกปกติเธอก็ทำให้ชั้นกินทุกวันอยู่แล้วนี่”
“หรอ...แล้ววิวจะไปไหนต่อหล่ะ”
“ก็ว่าจะไปนอนเล่นหอซิกมันหน่อยน่ะ...อาจารย์นัดชั้นตอนบ่าย2”
“แล้ววันนี้วิวจะกลับบ้านกี่โมง”
“อาจารย์ปล่อยตอนไหนชั้นก็กลับตอนนั้นแหละ...แล้วก็เธอหล่ะ”
“เดี๋ยวอีกสักพักพี่มิ้นคงมารับ”
“กลับเร็วอาจารย์เค้าไม่ว่าหรอ?”
“ไม่เป็นไรหรอกอาจารย์เค้าบอกกลับได้”
“อ่อ...งั้นชั้นไปนะ”
“ขับรถดีๆ...อย่าเพิ่งรีบตายก่อนหล่ะ”
“ชั้นไม่พลาดง่ายๆหรอกน่า...ไปนะ”
“อืม”
หลังจากส่งมายเสร็จผมก็ขับรถออกมาและกำลังที่จะมุ่งหน้าไปที่หอไอ้บ้าซิกแต่ระหว่างทางก็บังเอิญได้เจอกับพี่มิ้นและเพราะพี่มิ้นบีบแตรเรียกผมจึงเข้าไปหาพอไปถึงพี่มิ้นก็ลดกระจกลง
“มารับมายแล้วหรอครับพี่มิ้น”
“ความจริงก็ยังไม่ถึงเวลาหรอกจ่ะแต่พี่ว่างน่ะเลยออกมาก่อน”
“หรอครับ...แล้วพี่มิ้นกินข้าวเที่ยงมายังหรอครับ”
“ยังเลยจ๊ะ”
“งั้นผมแนะนำร้านอร่อยๆให้นะครับอยู่ตรงซอยฝั่งประตู3นี่เองครับชื่อร้านป้าศรี”
“ก็ดีเหมือนกันนะ....งั้นพี่ไปก่อนนะ”
“ครับ”
พูดจบพี้มิ้นก็เลื่อนกระจกขึ้นแต่ยังไม่ทันที่กระจกรถจะเลื่อนขึ้นปิดสนิดพี่มิ้นก็ลดกระจกลงอีกครั้งพร้อมพูดกับผม
“วิว...กินข้าวเที่ยงยังจ๊ะ...ออกไปกินกับพี่ไหม”
(อึก!!!...ข้าวเที่ยงอีกแล้วหรอออออเนี้ยยยยยย...โธ่เอ้ยพี่มิ้นอุตส่าห์ชวน...จะปฏิเสธก็ไม่ใช่สิ่งที่สมควรทำซะด้วย)
“กะ...ก็ได้ครับ”
...........................................................................................................................................................................
...................................
20.00 น.
อีกด้านหนึ่ง ณ
ที่บ้านของ กันยา
“................................................”
“ฮัลโหล...”
“ทำอะไรอยู่ยัยกัน”
“ฉันเพิ่งทำกับข้าวไว้รอพี่เสร็จเมื่อกี้เอง...ตอนนี้กำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงนี่แหละ”
“เหรอย๊ะ...วันนี้ไม่เห็นออกมาเที่ยวร้านฉันบ้างเลย...เมื่อวานก็คุยกันแปปเดียวเอง”
“แหม...เธอ...ก็ฉันอายนี่ป่านนี้คนอื่นเข้าใจฉันผิดหมดแล้วมั้ง”
“อ่าจริงด้วยพูดถึงเรื่องเมื่อวาน...เธอทำอะไรยังไงถึงได้เปิดห้องกับหนุ่มหล่อคนนั้นได้หล่ะ..ถ้าทางเค้ายังเด็กอยู่ด้วย”
“แล้วทำไมฉันต้องบอกเธอด้วยหล่ะ”
“อึ้ยย~~…เธอ...ไม่บอกฉันก็ยิ่งเข้าใจผิดหล่ะสิก็8-9ปีมานี้เธอไม่ยอมคบใครเลยนะ...อาาา~~...หรือว่าเค้าจะหน้าคล้ายกับ...คนนั้น”
“ไม่เลยวิวเค้าดูอ่อนโยนและใจดีกว่าเป็นล้านเท่า”
“อูยยย~~…แค่นั้นแน่เหรอย๊ะ...ซี๊ดด--~~”
“ฉันยังไม่บอกเธอตอนนี้หรอก...แล้วเมื่อกี้เสียงอะไรน่ะ?”
“ฉะ..ฉันก็..ยังไม่บอกเธอเหมือนกันแหละ..อู้ยยย..”
“นี่เธอทำอะไรอยู่กันแน่”
“ก็...ฉันมีแฟนนี่หน่าจะทำ..อา...อะไรอยู่มันแปลกตรงไหน”
“แหม..แล้วจะโทรหาฉันตอนนี้ทำไมเนี่ย”
“โธ่กัน...อาาา..ตอนแรกฉันก็คุยกับเธออยู่นี่แหละอุ้ยย~~แล้วเค้าก็มาบีบนม~~”
“.....”
“แล้วตอนนี้ก็เริ่มไซร้ซอกคออาาาา~~มือก็บีบหน้าอก..ฉันแรงขึ้นเรื่อยๆแล้ว...อู้ยยย~~”
“สนุกไหมหล่ะเธอ”
“สะ...เสียวมากเลยแหละ...ว๊ายย..ตัวเองล้วงมือเข้าไปตรง..นะนั้น.อู้ยย~~~เสียว”
“ตรงไหนของเธอน่ะ?”
“กัน...อาา~~……เค้าล้วงไปลูบกางเกงในใต้กระโปรง...ฉันใหญ่เลย..อาาา~~”
“.....”
“อึ้ยย~~เค้าผลักฉันลงบนเตียงแล้วก็ถอดกระโปรงฉันไปแล้ว...อู้ยยย...อาาา~~..ตัวเอง..เลียเบาๆก่อน...”
“....นี่หล่อน..ทำอะไรเกรงใจฉันบ้างสิ”
“กะ..ก็..ฉันเสียวนี่...น้ำก็ออกมาเยอะจนแฉะไปหมดแล้ว...อ้าาา~~บีบหน้าอกแรงอีกก็ได้..”
“อุบ...อืมมมม..กัน...เค้ายื่นหน้ามาจูบฉันแถมสอดลิ้นเข้ามา----”
“พอเลยหล่อนคิดจะยั่วฉันหรือไง...เฮ้อออ..ทำไมเราไม่มีแฟนกับเค้าบ้างนะ...อึ้ย..หวาา..เป้าแฉะตั้งแต่ตอนไหนหล่ะเนี้ย...สงสัยคืนนี้ต้อง....แต่คิดถึงวิวจริงๆเลยน๊า...กันอยากเจอกับวิวอีกนะคะ”
“.........................”
“...พูดอะไรอยู่เนี้ยยัยกันแค่คิดถึงเรื่องวิวก็ร้อนรุ่มขึ้นมาเลยเหรอไง...เรา2คนอายุห่างกันตั้งหลายปีนะ...เฮ้อฟุ้งซ่านเกินไปแล้วววววว”
“...........................”
“.........??เสียงรถพี่...กลับมาแล้วเหรอ”
“.....................................................”
“.....................................................”
“.....................................................”
“...กลับมาแล้วเหรอค่ะพี่...วันนี้ที่มหาลัยเป็นไงบ้างค่ะ”
........................................................................................................................................................................................................
ต่อไปนี้ นายวิวต้องจัดตารางเวลาให้ดีๆซะแล้ว
ตอบลบไม่งั้นรถไฟชนกันมั่วไปหมด
ตอนแรกผมก็คิดว่าวิวจะเจอใครแล้วก็มีอะไรด้วยก่อนแล้วค่อยมีคนใหม่ไปเรื่อยๆ แต่มาคิดอีกทีการที่สาวๆมาหลงชอบวิวแบบนี้มันต้องมีเบื้องหน้าเบื่องหลังมาก่อนแน่เลย...ผมคิดว่าแบบนั้นนะ...แต่จะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี้ย???
ลบมาย ค่อยๆรุกนายวิว เข้าไปเรื่อยๆแล้ว
ตอบลบ“ทะ...ที่นี่คือที่ไหน”
ตอบลบ“ที่นี่คือ......
.................................................
“ที่เราต้องพาคุณมาที่นี่นั้นมีเหตุผลบ้างอย่าง...แต่เรายังไม่สามารถที่จะบอกตอนนี้ได้”
................................................
“นี่อย่าบอกนะว่านักศึกษาหญิงคนที่ถือดาบอยู่นั่นจะเป็น...........
“....ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในสถานที่เดียวกันหรือแม้แต่ช่วงเวลาเดียวกัน”
“ผมไม่อยากจะเชื่อว่า......
................................................................................
ช่วงนี้กำลังวุ่นกับการเขียนส่วนที่เหลือและอีกไม่นานก็หน้าจะเสร็จอดใจรอกันอีกนิดนะ ส่วน
บทสนทนาพวกนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
แล้วท่านนักอ่านคิดว่ายังไงครับ?
เข้มข้นขึ้นเรื่อยครับ จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบลบส่วนที่เหลืออาจจะช้านิดนึงนะครับ สาเหตุเกิดจากแขนมันขัดๆเพราะเมื่อเช้าบังเอิญโดนแมงป่องต่อยที่ข้อซอกข้างขวาติดกัน2ทีเลย...ตอนนี้มันรู้สึกปวดๆแล้วก็เหมือนจะมีไข้ขึ้นเลยทำให้คิดเนื้อเรื่องไม่ค่อยออกขอโทษด้วยน๊า
ตอบลบขอให้ท่าน สายลม หายไวๆน่ะครับ
ตอบลบกลับไปอ่านเรื่องของตัวเองตั้งแต่ต้นก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องจะดูหลวมๆไปรึเปล่า(รึว่าผมคิดมากไปเอง)แล้วก็ฉากรักรู้สึกอ่านแล้วก็ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่(หรือเป็นเพราะเขียนเอง)
ตอบลบถ้าใครมี คำวิจารณ์ หรือ ข้อเสนอใดๆ บอกกันได้นะครับจะนำไปพัฒนา เปิดให้วิจารณ์หรือเสนอแนะได้เต็มที่เลยครับ
ถ้าอ่านแบบเอาสนุกไม่คิดอะไรมาก ก็ถือว่าดีแล้วครับ แต่ถ้าเอาแบบละเอียดก็เป็นอย่างว่าครับ ขอเลิฟซีนแบบลึกซึ้งและยาวๆหน่อยนะครับ ได้อารมณ์ดี หมั่นตรวจสอบผลงานเจ้าของแบบนี้และน้อมรับคำติชม หายากครับ อย่างนี้พัฒนาได้อีกไกลแน่นอน เป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบลบรับทราบครับ ความจริงแล้วเลิฟซีนนี่คิดว่าเป็นปัญหาต้นๆของผมเลยครับประมาณว่าเขียนไม่ค่อยเป็น555แต่คิดว่าต่อไปจะขยายฉากนี้ขึ้นให้ครอบคลุมมากกว่าเดิมและกำลังเล็งๆตอนที่จะจัดเต็มอยู่ครับ...เป็นคำแนะนำที่ดีมากครับ
ลบหายไวๆนะครับท่านสายลม โดนต่อยด้านขวาแบบนี้ลำบากน่าดูนะครับ หรือว่าท่านสายลมถนัดทั้งสองมือ55 ผมก็นึกไปนู้นนนลึกเบยย ส่วนบทสนทนา มีสาวถือดาบแบบนี้แว่บแรก ผมนึกถึงแคททันทีเลย คิดว่าอาจจะมาซับซ้อนซ้อนเงื่อนอะไรประมาณนั้น
ตอบลบส่วนเลิฟซีน ผมว่าเติม รูปร่างทรวดทรงอกองค์เอวอีกสักหน่อย น่าจะเวิร์คครับผมว่า
จะเป็นแคทแน่รึเปล่าต้องคอยติดตามครับแต่ที่คิดๆไว้จะยังไม่ออกมาในภาคนี้แน่ครับและอาจจะอีกนานเลย
ลบแล้วก็เรื่องเลิฟซีนจะพยายามใส่ที่ขอลงไปให้นะครับ รวมทั้งเหตุการณ์ที่ตัวละครตั้งใจจะให้เกิดหรือเกิดจากความไม่ตั้งใจหรือบังเอิญเกิดขึ้นไปให้ด้วยนะครับ
ตอนนี้ มายเริ่มรุกวิว เข้าไปเรื่อยๆแล้ว
ตอบลบอาจารย์กิ่ง กับ กัน เป็นพี่น้องกันแน่ๆ
(ไม่แน่ใจว่าถึงขั้นฝาแฝดหรือเปล่า)
ตอนหน้าขอลีลานายวิวหน่อยนะครับ สงสัยจะเป็นเบล
ตอบลบจะว่าถ้าพูดถึงตอนหน้าแล้วความจริงผมยัง ตัดสินใจไม่ได้เลยครับ ว่าจะเป็นยังไง...ตอนนี้กำลังคิดไกลๆอยู่ว่า...ถ้าตัดสินใจให้วิวร่วมฮาเร็มกับใครก่อนแล้วอนาคตของวิวจะเป็นเช่นไร...คือว่าไม่อยากตัดความสัมพันธ์กับใครเอาดื้อๆ
ลบ...แต่ตอนนี้ดันมีความคิดแผลงๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ต้องห้ามของลูกศิษย์กับอาจารย์เกิดขึ้นมาซะได้?
ขอบคุณครับ จากที่อ่านมาถึงตอนนี้เรื่องคำผิดดีขึ้นมากครับแต่ก็ยังมีบ้างประปราย ผมชอบแนวฮาเร็มซึ้งรักโรแมนติกแบบนี้แหละครับ ไม่ใช่แบบสาวกับบอล อันนั้นดราม่าสุดๆอ่านไปงี้น้ำตาซึมเลยครับสงสารสาว ผู้หญิงแบบนี้หายาก(คาแรกเตอร์กิ๊กใช่มั้ย อย่านะทำใจไม่ได้) ถ้าจะฮาเร็มก็ติดปมตรงจะทำไงให้สาวๆ มาอยู่รวมกันโดยไม่เกิดปัญหา เอาน่าวิวนายทำได้
ตอบลบดีขึ้นมากแล้วครับ ด้านภาษา คำผิดลดลง พยายามต่อไป อย่าถอดใจซะก่อน เพราะภาษาถูกต้องทำให้คนอ่านได้อรรถรสลื่นไหลไม่สะดุด ทำนองกับช้าวอร่อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าข้าวนั้นมีกรวดทรายปะปน คงคิดต่อได้นะว่าจะเป็นไง
ตอบลบ